×

ไม่มีอีกแล้ว ‘เวทมนตร์’ ของ Disney นักลงทุนกังวลอาจกำลังเผชิญ ‘ฝันร้าย’ เหมือน Netflix

21.04.2022
  • LOADING...
หุ้น Disney

แม้ผู้ถือหุ้นของ Disney ยังมีปีที่ไม่แย่เท่าผู้ถือหุ้นฝั่ง Netflix แต่สถานการณ์ที่เผชิญอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจเท่าไรนัก

 

หุ้นของ Netflix ลดลงมากกว่า 40% ในปีนี้ ก่อนที่ผลประกอบการในไตรมาสแรกซึ่งเผยถึงจำนวนสมาชิกที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ขณะที่หุ้นของ Disney ลดลงเกือบ 15% ในปี 2022 นั่นทำให้ Disney เป็นหนึ่งในบริษัทที่ผลตอบแทนย่ำแย่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีดาวโจนส์ที่ลดลงแค่ 4% เท่านั้นในปีนี้

 

ทั้งสองบริษัทต่างประสบปัญหาเกี่ยวกับการแข่งขันในธุรกิจสตรีมมิงและการเพิ่มจำนวนสมาชิกที่ดุเดือดมากขึ้นทุกวัน 

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 


 

แม้จะมีคลังภาพยนตร์และรายการมากมายจากการเป็นเจ้าของสตูดิโออยู่แล้ว แต่นักลงทุนยังกังวลว่าเนื้อหาที่มีอยู่มากมายนี้จะไม่สามารถเพิ่มการสมัครสมาชิกเพื่อมาชดเชยการชะลอตัวของการออกอากาศแบบเดิมและธุรกิจทีวีได้

 

“Disney+, Hulu และ ESPN+ มีขนาด การบริหาร และศักยภาพที่จะสามารถเป็นแพลตฟอร์มสตรีมเมอร์รายใหญ่ได้” ฟิลิปส์ คูสิค นักวิเคราะห์ J.P. Morgan กล่าว และได้เสริมว่า “แต่นี่ไม่ใช่ธุรกิจที่ดีเท่าที่ Disney เคยมีในทีวี”

 

บริษัทดั้งเดิมแบบ Disney ทำกำไรได้มากจากการขายโฆษณาและค่าดำเนินการจากบริษัททีวีในเครือ แต่จากการเปลี่ยนเป็นสตรีมมิงทำให้รูปแบบนั้นถดถอยลง และนักลงทุนกลับไปมอง ‘กำไรที่มาจากธุรกิจสตรีมมิง’ มากกว่าการโอ้อวดจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ในมือ

 

ไมเคิล นาธานสัน นักวิเคราะห์จาก MoffettNathanson ตั้งเป้าราคาหุ้น Disney ในเดือนมีนาคมไว้ที่ 150 ดอลลาร์ต่อหุ้น ลดลงจาก 165 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากความกังวลต่ออัตรากำไรที่ลดลง

 

ฝันร้ายที่กำลังเกิดขึ้นต่อ Disney ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะบริษัทถูกโจมตีจากสาธารณชนหลังจากแม่ทัพอย่าง ‘บ๊อบ ชาเปก’ ปฏิเสธที่จะออกมาพูดต่อต้านร่างกฎหมาย ‘Don’t Say Gay’ ของฟลอริดาที่ห้ามโรงเรียนสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 3 เกี่ยวกับอัตลักษณ์และรสนิยมทางเพศ

 

หลังจากการวิพากษ์วิจารณ์ของพนักงานภายใน Disney ในที่สุดแม่ทัพของ Disney ก็ทนแรงกดดันไม่ไหว ออกมาประณามกฎหมายดังกล่าว แต่รายงานของ CNN Business ชี้ว่า หลายคนในพรรครีพับลิกันกำลังข่มขู่ Disney ด้วยการคว่ำบาตร ในขณะที่พรรคเดโมแครตรู้สึกว่าคำตอบของชาเปกมาช้าและรู้สึกไม่สบายใจ

 

นักวิเคราะห์คาดว่าปัญหานี้อาจส่งผลต่อบริษัทไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งหากนักแสดงฮอลลีวูดเลือกที่จะไม่ทำงานกับบริษัท

 

“ทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวของ Disney คือแบรนด์ รองลงมาคือผู้มีความสามารถ หากการโต้เถียงนำไปสู่การสูญเสียผู้มีความสามารถด้านครีเอทีฟที่สำคัญ มันจะเป็นแง่ลบอย่างชัดเจน” Alan Gould จาก Loop Capital กล่าวในรายงานเมื่อต้นเดือนนี้

 

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ชัดเจนว่านักลงทุนใน Wall Street ไม่ค่อยพอใจกับผลงานของ Disney นับตั้งแต่ชาเปกเข้ามารับตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนได้จากหุ้นของ Disney อยู่ใกล้จุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020

 

กระนั้นบางคนก็หวังว่า Disney จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ในไม่ช้าจากการที่สามารถกลับมาเปิดสวนสนุกได้อีกครั้ง ตลอดจนโซนใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่กำลังต่อแถวเข้าฉาย

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising