วันนี้ (18 เมษายน) ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์ถึงกรณี ปริญญ์ พานิชภักดิ์ ว่าส่วนตัวไม่ขอก้าวล่วงปัญหาภายในพรรค เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารพรรคที่ต้องจัดการ แต่ส่วนตัวเห็นว่าปัญหาภายในพรรคการเมืองก็มีได้อยู่เสมอ เพราะพรรคการเมืองประกอบไปด้วยคน ที่หนีไม่พ้นที่จะต้องมีปัญหา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคต้องดูแลและรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อชื่อเสียงของพรรค กระทบต่อผู้สนับสนุนพรรค จำเป็นที่พรรคจะต้องชี้แจง ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มีบทบาทในการเข้าไปแทรกแซงหรือตัดสินใจ แต่ก็ได้ให้คำแนะนำเรื่องปัญหาต่างๆ ภายในพรรคว่า เมื่อมีปัญหาแล้วพรรคต้องยึดหลัก โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริตและความถูกต้อง ดังนั้นเมื่อมีปัญหาก็ต้องยึดหลักนี้ไว้ และเมื่อเกิดปัญหาควรหาโอกาสชี้แจงไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด โดยเฉพาะขณะนี้เริ่มมีบางประเด็นที่สื่อมวลชนนำเสนอคลาดเคลื่อนไม่ค่อยตรงนัก ตนจึงอยากให้พรรคชี้แจง
ชวนยอมรับด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบกับชื่อเสียงพรรคประชาธิปัตย์ เพราะทุกเรื่องกระทบกับพรรคเสมอ เรื่องดีกระทบในทางที่ดี แต่เรื่องที่ไม่ปกติกระทบในทางที่ไม่ปกติ ส่วนตัวเชื่อว่าพรรคยึดหลักความถูกต้อง ให้มั่นใจว่าพรรคยึดหลักนี้มาโดยตลอด เพราะเราไม่สามารถทำให้ทุกคนเหมือนกันหมดได้ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีอะไรที่เหนือกฎหมาย เรื่องนี้สำคัญมากในระบอบประชาธิปไตย เพราะในระบอบประชาธิปไตยถ้ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ประชาธิปไตยก็ไปไม่รอด ติดหล่ม ลุ่มๆ ดอนๆ ดังนั้นความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ ถูกผิดก็ว่าไปตามนั้น
ส่วนเรื่องที่มีการเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรคลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น ชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคต้องไปคุยกัน แต่ตามข้อบังคับพรรค พรรคมีมาตรฐานทางจริยธรรม เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยึดหลักในเรื่องนี้เป็นหลักที่ผ่านมา แม้แต่รัฐมนตรีถูกครหาในเรื่องที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง ที่ผ่านมาก็มีการพิจารณา บางคนก็เคยให้ออกไปก่อนเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบอย่างเรื่องนี้มาโดยตลอด
ทั้งนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรม ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ให้เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคพิจารณา
“ขอเรียนว่าท่านศุภชัย พานิชภักดิ์ และครอบครัว เป็นคนดี ถึงแม้จะเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่ไม่ใช่นักการเมืองที่มีอิทธิพลที่จะไปกลั่นแกล้งทำให้บ้านเมืองผิดปกติ ที่ตนพูดได้เพราะในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีและศุภชัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีนั้น ศุภชัยไม่เคยมีปัญหาในทางที่ผิดหรือใช้อิทธิพลใดก็ไม่มี จึงขอให้มั่นใจ และขอให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อะไรถูก อะไรผิด ให้ว่าไปตามกฎหมาย อย่าเกรงใจผู้ใด ในส่วนพรรค ขอให้มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เราไม่ทำอะไรให้ถูกเป็นผิดหรือผิดเป็นถูก และเราไม่บังอาจไปคุกคามเจ้าหน้าที่ ขอให้มั่นใจได้” ชวนกล่าวในที่สุด