×

กกร. หั่นคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 2.5-4.0% เพิ่มกรอบเงินเฟ้อเป็น 3.5-5.5% แนะรัฐเร่งยกเลิก Test & Go พร้อมต่ออายุคนละครึ่ง

05.04.2022
  • LOADING...
กกร.

กกร. หั่นคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 2.5-4.0% พร้อมปรับตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มเป็น 3.5-5.5% หลังวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนทำราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งทะยาน เสนอรัฐเร่งยกเลิก Test & Go พร้อมต่ออายุคนละครึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. ในวันนี้ (5 เมษายน) ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ลงจาก 2.5-4.5% เหลือ 2.5-4.0% พร้อมปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้จากเดิม 2-3% เป็น 3.5-5.5% และคงประมาณการการส่งออกในปี 2565 ว่าจะยังขยายตัวในกรอบ 3.0-5.0%

 

โดยที่ประชุม กกร. มีความเห็นว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อและยังมีความรุนแรงจะส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกมีแนวโน้มทะยานสูงขึ้น และทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มลดลง โดยความตึงเครียดดังกล่าวจะกดดันให้อุปทานน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติมีทิศทางตึงตัว โดยทั้งปี 2565 ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสอยู่เหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น ในกลุ่มเกษตรและกลุ่มโลหะก็สูงขึ้นตามไปด้วย 

 

ทั้งหมดนี้ได้ทำให้ภาคธุรกิจต้องเผชิญภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และส่งผลต่อเนื่องไปยังระดับราคาสินค้า ซึ่งเริ่มกระทบต่อความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน โดย OECD ประเมินว่าวิกฤตรัสเซียและยูเครนจะทำให้เศรษฐกิจโลกโตน้อยลงกว่าเดิมกว่า 1% และทำให้อัตราเงินเฟ้อโลกเพิ่มขึ้น 2.5% จากที่ประเมินไว้ก่อนเกิดวิกฤต

 

ประธาน กกร. ระบุอีกว่า นอกจากปัจจัยเรื่องสงครามแล้ว เศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังเผชิญความเสี่ยงมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ในจีนที่ทำให้หลายพื้นที่ต้องล็อกดาวน์ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ การล็อกดาวน์พื้นที่ในจีนเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและอาจทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่น้อยลงกว่าเดิม รวมทั้งอาจเกิดภาวะ Supply Chain Disruption ที่รุนแรงขึ้นได้ 

 

นอกจากนั้นภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลกส่งผลให้หลายประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะสหรัฐฯ จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตลดลงเช่นกัน รวมถึงตลาดการเงินเริ่มกังวลความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย 

 

สำหรับเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงที่สุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน โดยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 4.9% เป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาก จะเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และกำลังซื้อในประเทศ ดังนั้นแม้ว่าวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน จะกระทบการส่งออกและการท่องเที่ยวโดยตรงไม่มากนัก แต่ผลจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอื่นๆ เช่น ปุ๋ย สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะหากไปทำให้ราคาอาหารสดและราคาอาหารสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะเผชิญความเสี่ยงรอบด้าน แต่ยังคาดว่าจะเติบโตได้ ความมุ่งมั่นของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการปรับตัวให้สามารถอยู่กับโควิดแบบเป็นปกติมากขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ ที่ประชุม กกร. จึงปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวได้ในกรอบ 2.5-4.0% และคงประมาณการการส่งออกในปี 2565 ว่าจะยังขยายตัวในกรอบ 3.0-5.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะสินค้าในหมวดอาหารและพลังงาน จึงปรับประมาณการเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในกรอบ 3.5-5.5% 

 

ทั้งนี้ ที่ประชุม กกร. ได้มีข้อเสนอไปยังภาครัฐ ดังนี้ 

 

  1. หากมีการยกเลิกมาตรการ Test & Go จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศได้ในยามที่เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอื่นๆ มีข้อจำกัด และจะทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้เกิน 3% 

 

  1. กกร. มีความเห็นว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจยังต้องการแรงกระตุ้น ภาครัฐควรพิจารณาต่ออายุโครงการคนละครึ่งและโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2565 

 

  1. กกร. เสนอให้ภาครัฐพิจารณาแผนสำรองในการส่งออกผลไม้ผ่านทางเรือและทางอากาศ รวมทั้งช่วยส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคผลไม้ภายในประเทศให้มากขึ้น 

 

  1. เสนอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจโดยรวมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทำให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องทุ่มเททรัพยากรเพื่อฟื้นฟูธุรกิจและปรับตัวให้อยู่รอด 

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X