วิกเตอร์ ออร์บาน ผู้นำเผด็จการของฮังการีและมหามิตรของรัสเซีย นั่งเก้าอี้ผู้นำเป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันในวันอาทิตย์ (3 เมษายน) ที่ผ่านมา หลังจากชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ซึ่งเขาอวดอ้างว่าเป็นความพ่ายแพ้ของเสรีนิยม สหภาพยุโรป และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน
พรรคฟิเดสซ์ (Fidesz) ของออร์บาน กวาดที่นั่งในรัฐสภาได้อย่างเหนือความคาดหมายของบรรดานักวิเคราะห์ที่มองว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะออกมาคู่คี่สูสี โดยผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการปรากฏว่า พรรคฟิเดสซ์ได้รับคะแนนเสียงถึง 53% ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ออร์บานและพรรคของเขามีอำนาจเหนือพรรคร่วมฝ่ายค้าน
เหตุการณ์รัสเซียรุกรานยูเครนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยที่ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยาวนานของออร์บานกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ถูกพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด ทั้งนี้ ในการปราศรัยประกาศชัยชนะ ออร์บานเรียกประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ว่าเป็นหนึ่งใน ‘ฝ่ายตรงข้าม’ ที่เขาต้องเอาชนะในระหว่างการหาเสียง
ฮังการีพึ่งพาพลังงานของรัสเซียเป็นอย่างมาก และออร์บานได้หลบเลี่ยงโอกาสในการประณามการโจมตียูเครนของปูติน ซึ่งท่าทีของผู้นำฮังการีสร้างความยุ่งยากให้กับสหภาพยุโรปที่พยายามแสดงแนวร่วมต่อต้านปูติน
ด้านปูตินแสดงความยินดีกับออร์บานที่คว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด จากการเปิดเผยของโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งระบุด้วยว่า “แม้สถานการณ์ระหว่างประเทศยากลำบาก แต่การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทวิภาคีต่อไปจะตอบสนองผลประโยชน์ของรัสเซียและฮังการีได้อย่างเต็มที่”
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายค้านจัดการหาเสียงอย่างเป็นระบบมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ถึงกระนั้นพรรคฟิเดสซ์ของออร์บานก็ยังคงได้รับชัยชนะไปแบบสบายๆ ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้าน ปีเตอร์ มาร์กี-เคย์ ปราชัยในเขตของตัวเอง ซึ่งเขาเคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี
“เราคว้าชัยชนะในแบบที่สามารถมองเห็นได้จากดวงจันทร์ และแน่นอนว่าสามารถเห็นได้จากบรัสเซลส์” ออร์บานกล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น โดยพูดแขวะสหภาพยุโรป ซึ่งมีความสัมพันธ์อันตึงเครียดกับรัฐบาลฮังการีภายใต้การนำของออร์บานตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าฮังการีเป็นสมาชิก EU ก็ตาม
“เราจะจดจำชัยชนะครั้งนี้ตราบจนชั่วชีวิต เพราะเราต้องต่อสู้กับคู่ต่อสู้จำนวนมาก” ออร์บานกล่าว โดยอ้างถึงบรรดาคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งรวมถึงฝ่ายซ้ายในฮังการี, เหล่า ‘เจ้าขุนมูลนาย’ ใน EU, สื่อต่างประเทศ และประธานาธิบดียูเครน “เราไม่เคยมีคู่ต่อสู้พร้อมกันมากขนาดนี้มาก่อน” ผู้นำฮังการีกล่าว
ผลการเลือกตั้งบ่งชี้ว่า พรรคฟิเดสซ์จะคว้าไปได้ 135 ที่นั่งจากทั้งหมด 199 ที่นั่งในรัฐสภาของฮังการี ซึ่งหมายความว่าออร์บานสามารถรักษาเสียงข้างมาก สองในสาม ที่จะเปิดทางให้เขาแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
นอกจากนี้ พรรคมาตุภูมิของเรา (Our Homeland) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดที่ต่อต้านการฉีดวัคซีน สามารถเข้าสภาได้สำเร็จ โดยคว้าไปได้ 7 ที่นั่ง
อย่างไรก็ดี แม้ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย แต่การลงประชามติเกี่ยวกับการห้ามสื่อการเรียนการสอนและรายการสำหรับเด็กที่ได้รับการพิจารณาว่ามีเนื้อหาส่งเสริมรักร่วมเพศและการแปลงเพศนั้น ปรากฏว่าทางฝ่ายรัฐบาลไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวฮังการีมากพอ โดยการทำประชามติดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงในสังคม นักวิจารณ์มองว่าเป็นความพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้กับชุมชน LGBTQ ของฮังการี
ภาพ: Janos Kummer / Getty Images
อ้างอิง: