วันนี้ (23 มีนาคม) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) พรรคก้าวไกล เข้าร่วมการเสวนา เรื่อง ‘เลือกตั้งผู้ว่าฯ แก้ปัญหาคนกรุง’ ณ หอประชุมใหญ่ หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ระบุว่า ทุกปัญหาใน กทม. คนที่แบกรับปัญหาทั้งหมดคือคนจนที่ไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่มีอภิสิทธิ์มีบ้านเป็นของตัวเอง มีบ้านที่มีสวน มีรถยนต์ส่วนบุคคล ขณะที่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่เข้าถึงได้ก็ถูกทิ้งร้างและไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร เช่น รถเมล์ เพราะไม่มีนายทุนได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน
“เมืองทั้งหลายในโลก คนจนคนรวยสามารถใช้บริการรถเมล์ได้เท่าเทียมเสมอหน้า ตรงกันข้ามกับกรุงเทพฯ ที่คนจนเมืองเท่านั้นที่ใช้บริการรถเมล์”
นอกจากนี้วิโรจน์ยังระบุว่า แนวทางการบริหารรถเมล์ของ ขสมก. ผิดพลาด เพราะตั้งใจเอากำไรจากประชาชน ขณะที่เส้นทางรถเมล์ก็มีปัญหา สำหรับตัวอย่างวิธีแก้ปัญหารถเมล์เพื่อทำให้คนหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนคือ กทม. ต้องขออนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อเพิ่มเส้นทาง และควรอุดหนุนประชาชนด้วยตั๋วรายเดือน เพื่อบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจและช่วยคลี่คลายการจราจรที่ติดขัด เพราะหากระบบรถเมล์ดี มีเส้นทางเดินรถที่ดี จะช่วยสร้างย่าน สร้างเสน่ห์ของเมือง สร้างาน กระจายโอกาสการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการเดินทางจับจ่ายใช้สอยและการค้าขายของคนกรุงเทพฯ
สำหรับปัญหาน้ำท่วม วิโรจน์เสนอทางออกว่า การลอกท่อเป็นวิธีการแก้ปัญหาและเป็นเรื่องง่ายที่สุดในการเริ่มต้นจัดการน้ำท่วมใน กทม. และเชื่อว่าจะเห็นผลมากกว่าการสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่และผลาญงบประมาณ ดังนั้น ‘ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง’ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนในการจัดการน้ำท่วม
สำหรับปัญหาสุดท้าย การเพิ่มพื้นที่สีเขียว วิโรจน์ชี้ว่า แม้แต่สนามหลวง พื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของคนกรุงเทพฯ ปัจจุบันก็ถูกล้อมรั้วและทางเดินเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง สำหรับตนจึงพร้อมคืนสนามหลวงให้คนกรุงเทพฯ นอกจากนี้เรายังเห็นปัญหาจากกลวิธีเลี่ยงภาษีด้วยการปลูกกล้วย ปลูกพืชไร่ ในที่ดินของนายทุน หรือการแบ่งที่ดินเป็นเส้นสปาเกตตี เพื่อลดราคาเลี่ยงภาษี ดังนั้นวิธีแก้คือเวนคืนที่ดินประเภทนี้เพื่อทำพื้นที่สีเขียว ทำสวนสาธารณะให้กับคนกรุงเทพฯ ทุกคน
“คนกรุงต้องการผู้ว่าฯ ที่เป็นผู้แทนของคนกรุงเทพฯ มีเจตจำนงที่จะทำให้คนกรุงเทพฯ เท่าเทียมกัน และคืนเมืองที่เป็นธรรม ผู้ว่าฯ ต้องไม่เป็นกลางท่ามกลางความขัดแย้ง แต่เป็นต้องตัวแทนยืนอยู่ข้างประชาชนไม่ใช่นายทุน” วิโรจน์กล่าว