ย่างเข้าสู่เดือนมีนาคม 2565 นับเป็นระยะเวลากว่า 8 เดือน ที่ทีเอ็มบีและธนาคารธนชาต ได้ดำเนินการรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ เป็น ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ที่มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างรอบด้าน ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินหลากหลายรูปแบบ เพื่อเริ่มต้นสร้างการเปลี่ยนแปลงให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มุ่งหน้าสู่การเป็นธนาคารแห่งใหม่ที่มีศักยภาพในการตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และลูกค้าผู้ใช้บริการได้ดีกว่าเดิม เพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย
ระยะเวลาที่ผ่านมา ttb ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า กระแสตอบรับจากลูกค้าและสังคมมีความชัดเจนมากขึ้น สะท้อนได้จากการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์บัญชี ttb all free ซึ่งได้ปรับเพิ่มความคุ้มครองด้านประกันชีวิต และอุบัติเหตุฟรี มีผู้ใช้งานมากกว่า 1.9 ล้านรายแล้ว โดยมีการเติบโตของยอดเงินฝากของบัญชี ttb all free สูงถึง 15%
บัตรเครดิต ttb reserve ที่เจาะลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งสูง มีการตอบรับจากการถือบัตรจากกลุ่มเป้าหมายสูงถึง 60% ภายในระยะเวลาช่วง 6 เดือน เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน ttb smart port ที่ทำยอด IPO สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังทำยอดขายในสัปดาห์แรกรวมเป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ ด้วยสรรพกำลังที่แกร่งขึ้นรอบด้าน ttb ยังได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าของพวกเขาทั้งกลุ่มธุรกิจและลูกค้ารายย่อยในการก้าวข้ามผ่านช่วงวิกฤตโควิดที่เกิดขึ้นไปแล้วมากกว่า 750,000 ราย ผ่านมาตรการต่างๆ
แต่ลำพังแค่การรวมกิจการ นำจุดแข็งของกันและกันมาต่อยอด ต่อเติม ส่งเสริมซึ่งกันและกัน แค่นั้นอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะสิ่งที่ลูกค้าต้องการจาก ttb มากกว่า คือผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ ttb เดินเกมเร็วขานรับช่วงเปิดศักราชรับปี 2565 ด้วยการประกาศกลยุทธ์ใหม่ภายใต้แนวคิด ‘The Bank of Financial Well-being’ ธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย
นิยามการเป็นธนาคารที่มุ่งหวังจะเป็นผู้นำการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยจากความตั้งใจลึกๆ ของ ttb ในที่นี้มันคืออะไรกันแน่?
ttb เปิดเผยกลยุทธ์ในปี 2565 ภายใต้แนวคิด The Bank of Financial Well-being ธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย เพื่อขับเคลื่อนคนไทยสู่ชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ภายใต้ 3 แกนกลยุทธ์ ประกอบไปด้วย
- การเดินหน้าส่งมอบโซลูชันเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้คนไทย โดยส่งมอบโซลูชันความรู้ทางการเงิน และเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์และเข้าถึงได้ให้กับลูกค้าในทุกกลุ่มผ่าน 4 มิติการเงิน ได้แก่ ฉลาดออม ฉลาดใช้, รอบรู้เรื่องกู้ยืม, ลงทุนเพื่ออนาคต และมีความคุ้มครองที่อุ่นใจ
- ปรับโครงสร้างธุรกิจ จับมือพันธมิตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยลงทุนในบริษัท ธนชาตประกันภัย และบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต แห่งละ 10% เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนและประกัน รวมไปถึงการที่ ttb broker ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรบริษัทประกันภัยรวมกว่า 20 บริษัท และธนาคารยังได้จัดตั้งบริษัท ttb consumer เพื่อนำเสนอบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลแบบครบวงจร
- สร้าง Humanized Digital Banking เพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล ผ่านโซลูชันที่เป็นมิตรและรู้ใจลูกค้า โดยตั้ง ‘ttb spark’ ทีมพัฒนาดิจิทัลโซลูชัน ติดปีกการทำงานแบบ Agile พร้อมส่งมอบโซลูชันตอบโจทย์ลูกค้าบุคคลและธุรกิจทั้ง Ecosystem ได้อย่างรวดเร็ว และเตรียมปรับโฉมแอป ‘ttb touch’ สู่ผู้ช่วยทางการเงินส่วนตัว ช่วยให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้นรอบด้าน
ttb spark มูฟเมนต์ใหม่ กับคำตอบที่ว่า ttb จะสู้ศึก Digital Banking อย่างไร?
อีกหนึ่งแนวทางการดำเนินงานของ ttb ที่จะช่วยติดสปีดให้พวกเขามุ่งไปข้างหน้าได้ Lean ขึ้น คล่องตัวขึ้น และรู้จัก รู้ใจผู้ใช้งานได้อย่างดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ก็คือการจัดตั้งทัพหน้าพัฒนานวัตกรรมและดิจิทัลโซลูชันโดยเฉพาะ
และทัพหน้าที่หมายถึงก็คือ ‘ttb spark’ ที่จะทำหน้าที่เป็นเหมือนหน่วยงานใหม่ใน ttb ที่ทำงานในรูปแบบ Agile เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาดิจิทัลโซลูชันใหม่ๆ ให้กับทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ ภายใต้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ มี Digital DNA กล้าที่จะคิดนอกกรอบ และไม่กลัวที่จะทดลองวิธีการใหม่ๆ เพื่อสร้างดิจิทัลโซลูชันที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้
ที่ผ่านมา ttb spark ได้พัฒนาโซลูชันที่สามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน และเป็นการแก้ปัญหาทั้ง Ecosystem อาทิ แพลตฟอร์มปันบุญ หรือ www.punboon.org และโซลูชัน ‘ttb business one’ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้กับลูกค้าธุรกิจ โดยแนวคิดและวิธีการทำงานของ ttb spark ได้ถูกพิสูจน์และมีการตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้า และรางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมาย โดยในปีนี้ ttb พร้อมต่อยอดกระบวนการทำงานเพื่อส่งมอบ Humanized Digital Banking ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากทีม ttb spark คือการที่พวกเขาได้อัปเกรดแอปพลิเคชัน ttb touch โฉมใหม่ ที่จะเปิดตัวให้ได้ชมกันในเร็วๆ นี้ โดยมีความตั้งใจที่ต้องการให้ ttb touch เป็นผู้ช่วยส่วนตัวและที่ปรึกษาที่รู้จักและรู้ใจ ช่วยให้ชีวิตทางการเงินของลูกค้าดีขึ้นได้อย่างรอบด้าน ด้วยการใช้ Data Analytics วิเคราะห์พฤติกรรม ผ่าน 4 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ ผู้ช่วยส่วนตัว ไม่พลาดทุกเรื่องสำคัญ, ให้คำแนะนำและทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย, รวบรวมและจัดระเบียบเอกสาร และรวมสิทธิประโยชน์ไว้ในที่เดียว
จากทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ถ้ามองให้ดีก็จะพบว่า การออกมาประกาศวิสัยทัศน์ของ ttb ในครั้งนี้ ถือเป็นจังหวะการขยับตัวที่ท้าทายไม่น้อย โดยเฉพาะในวันที่ภาคผู้ให้บริการธนาคาร ผู้เล่นในตลาดการเงินต้องเผชิญความท้าทายที่สำคัญในด้านการแข่งขัน Digital Disruption และการเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภค ผู้ใช้งานให้ได้อย่างรู้ใจ รู้จังหวะ และรู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร ในเวลาใด
นับว่าเป็น Road Map ที่ท้าทายของ ttb ในการมุ่งเป็น The Bank of Financial Well-being ธนาคารที่ได้เริ่มต้นเดินหน้า ‘เปลี่ยน’ ตัวเอง เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์ ได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการได้ดียิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นของคนไทยทั้งในวันนี้และอนาคต