วันนี้ (3 มีนาคม) พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ ว่าขณะนี้สอบปากคำไปแล้ว 29 ปาก ซึ่งเป็นพยานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อมในคดี และวันนี้มีการสอบปากคำทั้งหมดอีก 8 ปาก อยู่ระหว่างการสอบปากคำ หนึ่งใน 8 ปากคือ โบ-สุรัตนาวี สุวิพร หรือ โบ TK ซึ่งเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน เนื่องจากเป็นเพื่อนแตงโม และ กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เพื่อสอบถามถึงการที่กระติกโทรศัพท์หาคนแรก มีการพูดคุยอะไรบ้าง
สำหรับกรณีการตรวจสอบเรือลำเกิดเหตุที่แตงโมตกเรือนั้น ไม่พบการทำลายหลักฐาน โดย พล.ต.ท. จิรพัฒน์อธิบายขั้นตอนการตรวจสอบว่า ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนตกเรือ ตำรวจไปที่เกิดเหตุและวันนั้นไม่พบเรือ รวมถึงไม่พบบุคคลอยู่บนเรือ แต่พบอาสาสมัคร และได้ติดตามหาจนพบเรือ ทำให้เช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ทราบว่าเรือลำที่แตงโมตกลงไปเป็นเรือสปีดโบ๊ต และไปจอดอยู่ที่อู่ NBC
จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้เดินทางไปที่อู่เรือ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้ทำการตรวจพิสูจน์เรือ และเก็บวัตถุพยานไปตรวจสอบ และวันต่อมา 26 กุมภาพันธ์ ก็ได้ถอดใบพัดเรือด้านในของเครื่องยนต์ไปตรวจสอบเพิ่มเติม และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ได้เข้ามาทำการตรวจสอบเรือซ้ำอีกครั้ง ซึ่งจากการตรวจสอบทั้ง 3 วัน ไม่พบว่ามีการทำลายหลักฐาน และได้ยึดเรือไว้เป็นของกลางทางคดีแล้ว
กรณีการนำบุคคลที่อยู่บนเรือไปจำลองเหตุการณ์ทั้ง 5 คน ถือเป็นการนำชี้เพื่อประกอบคำให้การของแต่ละคน โดยผลการดำเนินการได้รวบรวมประกอบไว้ในสำนวนเรียบร้อยแล้ว ไม่สามารถเปิดเผยได้
และเมื่อวานที่ได้นำเรือลำจริงไปทดลองวิ่ง เนื่องจากเรือลำนี้มี GPS และมีกล่องข้อมูลจึงสามารถดึงข้อมูลมาได้ ทำให้ทราบว่าเรือวิ่งไปทิศทางไหน ใช้ความเร็วเท่าไร จึงได้ทำการทดสอบเรือเพื่อยืนยันว่าระบบใช้งานได้จริง และวิ่งตามเส้นทางเดินเรือที่ปรากฏในกล่องข้อมูลเรือ เพื่อดูสภาพเรือ และดูสภาพที่เกิดขึ้นในความเร็วตามที่ได้ข้อมูลจาก GPS ดูสภาพเรือ สภาพน้ำ การทรงตัวของเรือ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บข้อมูลไปประกอบสำนวนคดีแล้ว
ทั้งนี้ที่ไปทดสอบ ช่วงเวลาที่แตงโมตกเรือ จะมีการกระชากเรือหรือไม่อย่างไรนั้น พล.ต.ท. จิรพัฒน์กล่าวว่า การดำเนินการทดลองเราจะอยู่บนพื้นฐานของพยานหลักฐานต่างๆ และขั้นตอนอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด ทั้งพยานและวิทยาศาตร์ เส้นทางทางดาวเทียม การใช้โทรศัพท์ เพื่อหาจุดที่แน่นอนว่าแตงโมตกลงตรงจุดไหน ลักษณะของเรือ และเวลาไหน
แต่จากข้อมูลการขับเรือกับข้อมูล GPS และการทดสอบการขับเรือจริงเมื่อวานนี้ (2 มีนาคม) พบว่าข้อมูลใกล้เคียงกัน และขณะนี้ทำให้ทราบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยว่า เวลา 22.29-22.34 น. เป็นช่วงเวลาที่คาดว่าน่าเกิดเหตุแตงโมตกเรือ ส่วนจะสอดคล้องกับคำให้การของพยานหรือไม่ เป็นรายละเอียดในสำนวน แต่ยืนยันได้ว่าขณะที่แตงโมตกเรือ เป็นช่วงจังหวะที่ โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ ขับเรือ
ส่วนการสืบสวนจะนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาใครได้หรือไม่ เพราะผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ตอนนี้ยังคงแจ้งข้อกล่าวหาเพียง 2 คน ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต และยังจะต้องรอการสอบปากคำให้ครบทั้งหมด ประกอบกับรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ด้วย โดยตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
สำหรับประเด็นเรื่องการแชร์คลิปบนเรือของแตงโมที่เป็นคลิปสุดท้าย และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในคลิปที่มีเสียงผู้ชายอยู่ด้วยนั้น พล.ต.ท. จิรพัฒน์กล่าวว่า ตนรับโจทย์มาตั้งแต่เมื่อวานนี้ และรอคำตอบจากกระติกว่าเสียงผู้ชายที่ตะโกนเข้ามาเป็นใคร หากทราบก็จะเรียกมาให้ปากคำ
และประเด็นที่สังคมสงสัย ไฟสะพานพระราม 8 ที่ปกติจะปิดในเวลา 21.00 น. แล้วพบว่าภาพที่กระติกกับแตงโมถ่ายรูปกันเป็นช่วงเวลา 21.56 น. นั้น มีการแก้ไขเวลาภายในภาพหรือไม่นั้น ตำรวจก็ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของทั้ง 5 คน และนำข้อมูลส่งไปยังตำรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบแล้ว