นับเป็นวิกฤตครั้งล่าสุดที่ Toyota ต้องเผชิญ หลังจากที่ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนสำคัญปิดระบบคอมพิวเตอร์ของตนเนื่องจากการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต (Cyber Attack) ทำให้ยักษ์ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปิดโรงงานในญี่ปุ่นทั้งหมดไปด้วย เพราะระบบมีการเชื่อมต่อถึงกัน
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังหยุดดำเนินการในโรงงานทั้ง 14 แห่งในประเทศบ้านเกิด ส่งผลกระทบราว 5% ของผลผลิตในเดือนนี้ การหยุดชะงักดังกล่าวเชื่อมโยงกับ Kojima Industries ซึ่งยืนยันวันนี้ (1 มีนาคม) ว่าเซิร์ฟเวอร์ของตนถูกโจมตีโดยแรนซัมแวร์ หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ในช่วงสุดสัปดาห์
Nikkei Asia รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่ใกล้ชิดกับ Kojima Industries ว่า “เป็นความจริงที่เราถูกโจมตีทางไซเบอร์บางอย่าง เรากำลังเร่งตอบสนองยืนยันความเสียหาย โดยให้ความสำคัญกับการกลับมาทำงานของระบบการผลิตของ Toyota เป็นหลักโดยเร็วที่สุด
“ตัวแทนของ Toyota และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อยู่ที่ Kojima Industries เพื่อระบุสาเหตุและวิธีการกู้คืนระบบ” แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับสถานการณ์กล่าว
ซัพพลายเออร์ Tier 1 ประมาณ 400 รายที่ Toyota ทำข้อตกลงด้วยโดยตรงนั้นเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบควบคุมการผลิต ซึ่งทำให้ปัญหาที่ Kojima Industries ลามไปถึง Toyota จึงหยุดการผลิตเพื่อป้องกันความเสียหายในระยะยาว และจัดลำดับความสำคัญในการตรวจสอบและกู้คืนระบบ
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของ Toyota ที่กำลังฟื้นฟูกำลังการผลิตให้กลับมาเต็มรูปแบบ หลังจากที่โรงงานหยุดทำงานในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เนื่องจากการขาดแคลนชิปและการหยุดชะงักที่เกี่ยวข้องกับโควิด
ขณะเดียวกัน Bloomberg ได้รายงานว่า นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น กล่าวว่ารัฐบาลจะสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว และรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์หรือไม่
มัลแวร์เรียกค่าไถ่ดังกล่าวจะ “เกี่ยวข้องกับรัสเซียหรือไม่ เป็นการยากที่จะตอบ จนกว่าเราจะตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าว
การโจมตีทางไซเบอร์ได้เพิ่มขึ้นในญี่ปุ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีคดีอาชญากรรมในโลกไซเบอร์กว่า 12,275 คดีในปีที่แล้ว ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ตามรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น โดยอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่นเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการก่ออาชญากรรม เช่น การโจมตีของมัลแวร์เรียกค่าไถ่
ภาพ: Costfoto/Barcroft Media via Getty Images
อ้างอิง: