ผ่านมาแล้ว 6 วันสำหรับการรณรงค์ 7 วันอันตรายในช่วงปีใหม่ ซึ่งวันนี้จะเป็นการเก็บสถิติวันสุดท้าย ย้อนไปดูว่า 6 วันที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เช้าวันนี้ที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) พล.ท. สมศักดิ์ สมรักษ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แถลงข่าวสรุปยอดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือ 7 วันอันตราย
โดยในวันที่ 2 มกราคม 2561 เกิดอุบัติเหตุ 400 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 51 ราย และผู้บาดเจ็บรวม 431 คน
โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ เมาแล้วขับ ร้อยละ 40.25 รองลงมาคือ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 28.50
ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.76
ส่งผลให้ 6 วัน นับตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ถึง 2 มกราคม 2561 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,456 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 375 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,612 คน
สำหรับ 6 วันที่ผ่านมาช่วงเทศกาลปีใหม่ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมีทั้งสิ้น 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา, จังหวัดระนอง, จังหวัดหนองบัวลำภู, จังหวัดนครนายก, จังหวัดตรัง, จังหวัดชัยนาท, จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดน่าน
ด้าน พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล 3 กล่าวถึงการดำเนินคดีของผู้กระทำผิดจากการตั้งจุดตรวจหลัก 2,003 จุด ถูกดำเนินคดีรวม 140,714 ราย ซึ่งมีทั้งกรณีการไม่สวมหมวกกันน็อกและขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ สำหรับยอดรวม 6 วันพบว่า มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับความผิดทางจราจรและเมาแล้วขับถึง 746,412 ราย
ทั้งนี้แม้จะมีอุบัติเหตุลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทาง ศปถ. ยังไม่พอใจ เนื่องจากมีการจับกุมผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 28.8 ดังนั้นจะมีการสรุปภาพรวมเพื่อนำมาหารือต่อ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความไม่มีประสิทธิภาพ หรือการหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่ เนื่องจากจะนำบทเรียนนี้ไปปรับใช้และหามาตรการป้องกันเพื่อลดอุบัติเหตุท้องถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น