*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์*
Thirty-Nine ซีรีส์เรื่องใหม่จากช่อง JTBC บอกเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิท 3 คนที่ชีวิตกำลังย่างก้าวเข้าสู่วัยเลข 4 อย่างเต็มตัว แสดงนำโดย ซนเยจิน รักแรกแห่งชาติของเกาหลี ที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักจากบท ยุนเซรี ใน Crash Landing on You, ชอนมีโด หญิงสาวที่เคยคว้าหัวใจแฟนๆ จากบทคุณหมอซงฮวา ใน Hospital Playlist และ คิมจีฮยอน นักแสดงสาวมากความสามารถที่เคยพิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือการแสดงที่โดนเด่นใน Artificial City
เมื่อพูดถึงการสะท้อนภาพของผู้หญิงในเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้ก็มีทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ที่หยิบยกเรื่องราวของผู้หญิงในวัยผู้ใหญ่มาบอกเล่าจนประสบความสำเร็จมาแล้วอย่าง Kim Ji-Young, Born 1982 ภาพยนตร์ดราม่าที่สะท้อนชีวิตของผู้หญิงซึ่งไม่ได้รับความเท่าเทียมในสังคมชายเป็นใหญ่ หรือ Search: WWW บอกเล่าถึงชีวิตของหญิงสาว 3 คนที่พยายามละทิ้งภาพจำของการเป็นภรรยาและแม่ที่ดีของสังคม
เช่นเดียวกับ Thirty-Nine ที่พยายามสะท้อนภาพของผู้หญิงยุคใหม่ในเกาหลีใต้ด้วยโทนที่สดใสมากขึ้น ผ่านการสำรวจชีวิตของผู้หญิงในวัย 39 ปีที่ใครหลายคนคาดหวังว่าจะมั่นคงและสงบนิ่ง แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของพวกเธอในวัยใกล้เลข 4 ก็ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่คาดฝันและจัดการได้ยาก รวมถึงเรื่องความรักก็เช่นกัน
ในตอนต้นของซีรีส์ให้ความสำคัญกับการค่อยๆ พาเราไปทำความรู้จักกับชีวิตและความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิท 3 คน อย่าง ชามีโจ (ซนเยจิน) หัวหน้าแพทย์ผิวหนังของคลินิกในย่านกังนัม เด็กผู้หญิงที่ได้รับเลี้ยงมาเป็นลูกบุญธรรมในครอบครัวที่รักและใส่ใจเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ
จองชานยอง (ชอนมีโด) เป็นคนพูดจาโผงผาง แต่ก็จริงใจและคอยเป็นห่วงคนรอบข้างเสมอ เธอมีอาชีพเป็นครูสอนการแสดงที่มีความฝันสูงสุดในการเป็นนักแสดง แต่ก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ
จางจูฮี (คิมจีฮยอน) ผู้จัดการแผนกเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีนิสัยแตกต่างกับเพื่อนอีก 2 คนลิบลับ จูฮีเป็นคนอ่อนโยนและมองโลกในแง่ดี ทำให้บางครั้งก็อ่อนต่อโลกจนเกินไป
จากความบังเอิญที่ทำให้ได้มาเป็นเพื่อนกัน ผ่านมา 20 ปี เด็กสาว 3 คนกำลังก้าวเข้าสู่วัยเลข 4 อย่างเต็มตัว แต่ชีวิตของมีโจ ชานยอง และจูฮี แทบไม่แตกต่างไปจากในตอนเด็ก แม้จะมีภาระรับผิดชอบมากขึ้น ใช้เครื่องสำอางแพงขึ้น หรือไปคลินิกเสริมความงามบ่อยครั้งกว่าเดิม
แต่พวกเธอในวัย 39 ปี ยังชื่นชอบการออกไปเที่ยวเล่น นั่งกินต๊อกโบกี หัวเราะ พูดคุยกัน และยังคงมองหาความสัมพันธ์ที่ดีกับใครสักคน ไม่ต่างจากตอนอายุ 18 ปี
เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้คือบทสนทนาระหว่างเพื่อนสาวทั้ง 3 คนที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จนเราเชื่อได้สนิทใจว่าพวกเธอทั้ง 3 คนได้ผ่านช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตามาด้วยกัน โดยตลอดระยะเวลาชั่วโมงกว่าๆ ซีรีส์ก็คอยหยอดมุกเล็กๆ ให้เราอมยิ้มตามได้ตลอดเวลา สมกับการแปะป้ายว่าเป็นซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้
หลังจากปล่อยให้เราหัวเราะและอมยิ้มกับความสัมพันธ์ของสามสาว ซีรีส์ก็หยอดปมขนาดใหญ่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ด้วยความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของชานยองกับ คิมจินซอก (อีมูแซง) รุ่นพี่ของมีโจ ซึ่งตกหลุมรักชานยองตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ทั้งสองพัฒนาความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนรักในที่สุด
แต่เมื่อเวลาผ่านไปจินซอกต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จากสถานะคนรักก็กลายเป็นชู้โดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาพลาดทำผู้หญิงคนหนึ่งตั้งท้อง จึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอหลังเรียนจบ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและชานยองก็ยังดำเนินต่อไปอย่างหลบๆ ซ่อนๆ
เรื่องราวความรักระหว่างพวกเขากลายเป็นความสัมพันธ์แสนอึดอัดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ชานยองก็ยอมอดทนมานานหลายปี ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งผู้ชายที่เธอรักจะยอมหย่าแล้วกลับมาอยู่ด้วยกัน
ในขณะที่ด้านของมีโจซึ่งไม่มีความรักมานาน และมีแผนกำลังจะหนีไปพักผ่อนถึง 1 ปีเต็มที่อเมริกา เพื่อทิ้งชีวิตที่เต็มไปด้วยการทำงานไว้ข้างหลัง แต่ชีวิตดันเล่นตลกให้เธอได้พบกับ คิมซอนอู (ยอนอูจิน) แพทย์หนุ่มที่อาสาไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่บ้านเด็กกำพร้าซึ่งเธอเคยอยู่ในวัยเด็ก
“อยากไปดูดอกโบตั๋น 2 ดอกนั้นไหมครับ”
จากดอกโบตั๋นที่มีโจให้ไว้แทนคำขอบคุณในวันที่ซอนอูนำนาฬิกามาคืน นำไปสู่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เธอไม่พร้อมจะสานต่อ
นอกจากเรื่องราวความรักที่มีทีท่าจะสับสนวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ ซีรีส์เรื่องนี้ยังได้สอดแทรกประเด็นอื่นๆ ทิ้งไว้ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมที่หลายคนมองว่าป็นผลดีกับเด็กกำพร้า แต่ก็ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมีความสุขกับการทิ้งสถานที่ที่เติบโตมาและไปเป็นลูกบุญธรรมของคนแปลกหน้า
รวมทั้งเรื่องราวของ ชามีฮยอน (คังมัลกึม) พี่สาวบุญธรรมของมีโจ ที่แม้อายุจะเลยเลข 4 ไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงมีความฝันที่คอยแอบทำอย่างลับๆ อย่างการเต้นลีลาศ ที่มีฮยอนแอบไปฝึกซ้อมโดยไม่ให้คนรอบข้างรู้
ทั้งสองประเด็นนี้นับเป็นอีกเรื่องราวที่น่าสนใจ ซึ่งคาดว่าจะถูกนำไปขยายความต่อ และอาจกลายเป็นอีกหนึ่งปมปัญหาของเรื่องในอนาคต
“ฉักเลิกสูบบุหรี่แล้ว และจะเลิกกับพี่ด้วย”
เรื่องราวในอีพีแรกจบลง พร้อมกับการตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ของชานยอง
ในขณะที่ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนซึ่งมีโจไม่อยากจะสานต่อกำลังเริ่มต้น และรอวันเบ่งบานไม่ต่างกับดอกโบตั๋นที่พวกเขามอบให้กัน
ร่วมลุ้นเอาใจช่วยเรื่องราวความรักของพวกเธอ และติดตามชีวิตหลากสีสันในวัย 39 ปี ได้ในซีรีส์ Thrity-Nine ออกอากาศพร้อมซับไตเติลไทยทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 22:00 น. ทาง Netflix
