หุ้น OR กลับสู่เรดาร์ นักลงทุนแห่เก็งกำไรหลังความเสี่ยงธุรกิจถูกปลดล็อก ดันราคาหุ้นพุ่งเฉียด 5%

ราคาหุ้น บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR มีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นในช่วงเช้า ดันราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 5% นักวิเคราะห์ระบุความเสี่ยงถูกปลดล็อก ดันแนวโน้มผลประกอบการปีนี้โตต่อ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น OR วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ราคาปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.90% ระหว่างวันทำราคาสูงสุดที่ 27 บาท มูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับ 2 ของกระดาน SET ที่ 2,069.60 ล้านบาท

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้หุ้น OR กลับสู่ความสนใจนักลงทุนอีกครั้ง คือผลประกอบการไตรมาส 4/64 และผลประกอบการทั้งปี 2564 ที่มีการเติบโตขึ้นตามคาด รวมถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังปี 2564 ในอัตรา 0.19 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับ 0.7% โดยจะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ และจ่ายเงินปันผล 28 เมษายนนี้

อีกสาเหตุหนึ่งคือการลดภาษีน้ำมันดีเซลลงในอัตรา 3 บาทต่อลิตร ซึ่งจะส่งผลให้ค่าการตลาดของ OR สูงขึ้น โดยในไตรมาสที่ผ่านมา OR พยายามรักษาราคาดีเซลให้อยู่ในระดับ 30 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด

สาเหตุที่ 3 คือการที่รัฐบาลส่งสัญญาณสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในฝั่งผู้บริโภค และผู้นำเข้าเพื่อจัดจำหน่าย โดยในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้านั้น สถานีบริการชาร์จไฟฟ้ายังถือว่ามีน้อย ซึ่ง OR ได้ประกาศรุกธุรกิจสถานีบริการมานานแล้ว

“ตอนนี้ความเสี่ยงที่กดดัน OR มาตลอดถูกปลดล็อกออกไป ทั้งเรื่องภาษีน้ำมันที่มีผลต่อการบริการจัดการค่าการตลาด รวมถึงการคลายมาตรการป้องกันโควิดที่ทำให้มีการเดินทางเพิ่มขึ้น จำนวนการเข้าใช้บริการของ OR จึงเพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจ Oil และ Non-Oil จึงได้รับความสนใจอีกครั้ง” ณัฐพลกล่าว

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ภาพรวมกำไรของ OR ปี 2565 ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว ประกอบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบันยังมี Upside ที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 28 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำนักลงทุนเน้นหาจังหวะทยอยสะสมหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว

โดย บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิปี 2565 ของ OR ไว้ที่ 1.28 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายน้ำมันโดยรวม และยอดขาย Cafe Amazon ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้จะยังมีการแพร่ระบาดโควิดอยู่ก็ตาม

ทั้งนี้ประเมินว่า OR จะเปิดสถานีบริการน้ำมัน และร้าน Cafe Amazon ในประเทศ เพิ่มขึ้นปีละ 100 สถานี และ 400 สาขาตามลำดับ ขณะที่การเปิดสถานีบริการน้ำมัน และร้าน Cafe Amazon ในต่างประเทศ จะเพิ่มขึ้นได้ปีละ 35 สถานี และ 35 สาขาตามลำดับ

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH