AH - แนวโน้มผลประกอบการ 4Q64 คาดปรับตัวดีขึ้น จากการกลับมาดำเนินงานตามปกติหลังผ่อนคลายล็อกดาวน์

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 4Q64 ของ บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น AH ปรับตัวขึ้น 13.2%MoM สู่ระดับ 13.70 บาท ดีกว่า SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 0.2%MoM สู่ระดับ 1,640.54 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565)

มุมมองระยะสั้น:

SCBS คาดว่า AH จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q64 ที่ 291 ล้านบาท เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 86%YoY และ 24%QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ในระดับทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 132%QoQ โดยได้แรงหนุนจากการกลับมาดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ OEM (52% ของยอดขาย) ได้ตามปกติหลังจากผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนกันยายน 2564 และธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยและมาเลเซีย (23% ของยอดขาย) ที่ปรับตัวดีขึ้น

ทั้งนี้ใน 4Q64 ยอดการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยเติบโต 2%YoY และ 29%QoQ ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของมาเลเซียเติบโต 2%YoY และเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด 172%QoQ หลังจากมีการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกลางสิงหาคม 2564

สำหรับธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ OEM ในโปรตุเกส (20% ของยอดขาย) SCBS คาดว่าการดำเนินงานจะอ่อนแอลง YoY และ QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ขาดแคลนชิปที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในยุโรป ส่วนกำไรปกติทั้งปี 2564 คาดการณ์ไว้ที่ 930 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 142 ล้านบาทในปี 2563

มุมมองระยะยาว:

SCBS คาดว่าในปี 2565 กำไรปกติจะเติบโต 20% โดยได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่เป็นบวก โดยคาดการณ์ยอดการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยที่ 1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 7%YoY และคำสั่งซื้อที่เข้ามาใหม่ ส่วน 1Q65 คาดว่ากำไรจะอยู่ในระดับทรงตัว YoY แต่ดีขึ้น QoQ ขณะที่กำไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนใน 2Q65 เมื่อบริษัทเริ่มผลิตเพลาแบบใหม่สำหรับรถกระบะซึ่งเป็นรุ่นที่มีขายทั่วโลก ด้วยมูลค่าราว 1.0 พันล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 5% ของยอดขาย

อย่างไรก็ดี กำไรอาจมีอัปไซด์หากอัตรากำไรขั้นต้นจากผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ดีกว่าคาด ส่วนสถานการณ์ขาดแคลนชิปในยุโรป AH คาดจะยังคงดำเนินต่อไป แต่มีแนวโน้มที่จะคลี่คลายใน 2Q65

นอกจากนี้การปรับตัวให้เข้ากับกระแสการใช้ EV สำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) แบบเดิม SCBS ประเมินว่า AH มียอดขายชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการเปลี่ยนไปใช้ EV ในสัดส่วนน้อยมากที่ประมาณ 2% ของยอดขาย โดยบริษัทมีการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและชิ้นส่วนหล่อขึ้นรูปโลหะสำหรับ EV ในประเทศไทยและยุโรปอยู่แล้ว แม้สัดส่วนยอดขายยังมีน้อย แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH