องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ประกาศเมื่อวานนี้ (24 มกราคม) ว่าประเทศสมาชิกได้สั่งกองกำลังทหารเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และกำลังส่งเรือรบและเครื่องบินขับไล่ไปยังยุโรปตะวันออกเพิ่มเติม ในขณะที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ได้สั่งให้สมาชิกครอบครัวทูตเดินทางออกจากยูเครนก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความกังวลว่ารัสเซียอาจตัดสินใจบุกยูเครน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวตอกย้ำความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจบุกยูเครน หลังรัสเซียจัดการซ้อมรบทางทหารต่อเนื่องหลายเดือน จนทำให้เกิดความเคลื่อนไหวตอบโต้โดยฝั่งชาติพันธมิตร NATO ซึ่งนำไปสู่ความตึงเครียดระลอกล่าสุด
ที่ผ่านมารัสเซียได้สั่งสมกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในบริเวณใกล้กับชายแดนยูเครนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และได้ส่งทหารเข้าไปในเบลารุสเพื่อเตรียมการซ้อมรบในเดือนหน้า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครนวิตกว่ารัสเซียอาจใช้เป็นฐานปฏิบัติการโจมตียูเครน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาไม่ทราบว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ตัดสินใจที่จะบุกยูเครนหรือไม่ โดยก่อนหน้านี้เครมลินปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้วางแผนบุกโจมตียูเครน แต่อ้างว่าการที่ NATO สนับสนุนยูเครนนั้น ถือเป็นภัยคุกคามต่อดินแดนฟากตะวันตกของรัสเซีย
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา วอชิงตันและมอสโกได้จัดการเจรจาระดับสูง แต่ก็ไม่มีข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมเพื่อคลี่คลายกรณีที่รัสเซียสั่งสมกำลังทหารหลายหมื่นนายในบริเวณชายแดนติดกับยูเครน ดังนั้นโอกาสที่จะลดความตึงเครียดและหาทางออกด้วยวิธีทางการทูตจึงยังเป็นเครื่องหมายคำถาม
สำหรับฝั่งของสหรัฐฯ นั้น คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังพิจารณาส่งทหารจำนวน 5,000 นาย เพื่อไปสมทบกับกองกำลังชาติ NATO ในยุโรปตะวันออกและรัฐบอลติก โดยก่อนหน้านั้นกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ รวมถึงสหราชอาณาจักรได้สั่งให้ครอบครัวของนักการทูตในกรุงเคียฟเดินทางออกจากยูเครน
ด้านเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ระบุในแถลงการณ์ว่า พันธมิตร NATO จะเดินหน้าใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องพันธมิตรทุกประเทศ ซึ่งรวมถึงการเสริมกำลังให้พันธมิตรทางตะวันออกด้วย
แถลงการณ์ของ NATO ระบุด้วยว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาชาติสมาชิกได้ประกาศส่งกองกำลังไปยังภูมิภาคดังกล่าว โดยเดนมาร์กได้ส่งเรือฟริเกตไปยังทะเลบอลติก และส่งเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 จำนวน 4 ลำ ไปยังลิทัวเนีย ส่วนเนเธอร์แลนด์ส่งเครื่องบินขับไล่แบบ F-35 2 ลำไปบัลแกเรีย ขณะที่ฝรั่งเศสระบุว่าพร้อมส่งทหารไปโรมาเนียเช่นกัน
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลินของรัสเซีย ระบุว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้เป็นผลมาจากการกระทำของสหรัฐฯ และ NATO พร้อมกล่าวด้วยว่าข้อมูลที่มีการเผยแพร่นั้นมีแต่ข้อมูลเท็จและคำโกหกทั้งสิ้น
ภาพ: Nicolas Economou/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: