วันนี้ (23 มกราคม) โครงการห้องสมุด 1932 People Space Library ซึ่งต้องอยู่ที่หอสมุดภัทรานุสรณ์ วัดทองนพคุณ ได้แจ้งผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า ด่วน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนบุกมาค้นหนังสือในห้องสมุดและยึดหนังสือกลับไปด้วย เรายังยืนยันในหลักการเดิมว่าหนังสือทุกเล่มเป็นหนังสือของประชาชน เสรีภาพทางการอ่านและเสรีภาพทางวิชาการเป็นสิ่งพึงมี ไม่มีผู้มีอำนาจใดจะมีสิทธิ์ที่จะยึดไปตามอำเภอใจได้
ในเวลาต่อมามีการยืนยันผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจอีกว่า “เราผู้ร่วมก่อตั้งห้องสมุด 1932 People Space แห่งนี้ ขอยืนยันในหลักการแห่งเสรีภาพทางวิชาการที่จะไม่มีอำนาจใดมาพรากไปจากประชาชนได้ ต่อให้ท่านจะยึดหนังสือเราไปตั้งแต่เล่มแรกยันเล่มสุดท้ายที่เรามี ท่านก็ไม่สามารถยึดเจตจำนงเพื่อมวลชนจากพวกเราไปได้ เราจะต่อต้านการกระทำอันเป็นการทำลายเสรีภาพอย่างถึงที่สุด และจะไม่สยบยอมต่ออำนาจรัฐใดๆ” พร้อมระบุบทกลอนด้วยว่า
“หนึ่งคนพูดเพื่อให้ล้านคนตื่น
เสรีฟื้นนกพิราบจะขับขาน
ท่านยิ่งเด็ดดอกไม้ทิ้งจะยิ่งบาน
ท่านยิ่งผลาญเรายิ่งกล้าท้าอธรรม”
ต่อมา THE STANDARD ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังทีมงานของห้องสมุด ได้รับการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาล (สน.) สมเด็จเจ้าพระยา จำนวน 5 นาย ซึ่งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบได้เดินทางมาที่ห้องสมุด โดยอ้างว่าเป็นการมาดูห้องสมุดหลังจัดงานเปิดตัว เพื่อรายงานต่อผู้บังคับบัญชา แต่กลับนำหนังสือนิทานวาดหวัง 10 ราษฎร กลับไปด้วย 1 เล่ม กระทั่งในเวลาต่อมาได้นำหนังสือเล่มดังกล่าวมาคืนให้กับทางห้องสมุด พร้อมอ้างว่าที่นำหนังสือไปด้วยเพราะต้องการเอาไปให้ลูกอ่าน เนื่องจากลูกก็มีแนวคิดทางการเมืองในลักษณะนี้
“เรากำลังปรึกษาทนายความจากทางศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะการเข้ามาที่ห้องสมุดในลักษณะนี้ไม่มีทั้งหมายค้นและยังเอาหนังสือไปด้วย แต่ยังคงยืนยันที่จะวางหนังสือเล่มดังกล่าวในห้องสมุดต่อไป เพื่อยืนยันต่อเสรีภาพทางวิชาการที่ประเทศนี้ต้องมี”
สำหรับโครงการห้องสมุด 1932 People Space Library เป็นโครงการที่รวบรวมหนังสือด้านการเมือง ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำห้องสมุดสาธารณะ เปิดพื้นที่ในการจัดกลุ่มศึกษาด้านการพัฒนา ไม่ว่าจะในรูปแบบวงพูดคุย ค่ายเยาวชน งานเสวนาวิชาการ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย นำไปสู่พื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเสรีเพื่อพัฒนารากฐานของประชาธิปไตยในสังคมไทยต่อไป และได้จัดกิจกรรมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
- เปิดพื้นที่ทางการเมือง สร้างพื้นที่ในการแสดงออกในเรื่องต่างๆ ผ่านการจัดนิทรรศการและวงเสวนา เช่น ประเด็นปัญหาสิทธิชุมชน สิทธิแรงงาน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการพัฒนาเมือง
- สนับสนุนการแสดงออก ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน สิทธิแรงงาน ปัญหาการจัดการเมือง การกระจายอำนาจ ในประเทศไทย
- สร้างพื้นที่ทางวิชาการด้านสังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ เพื่อให้เกิดการถกเถียงจนนำไปสู่การพัฒนา
- เพื่อสร้างเครือข่ายประชาชนให้เกิดความแข็งแกร่ง จนนำไปสู่การพัฒนาการเมืองในประเทศไทย
อ้างอิง: