ประชาชนชาวออสเตรียหลายหมื่นคน พากันออกไปร่วมการชุมนุมในกรุงเวียนนาเมื่อวานนี้ (11 ธันวาคม) เพื่อประท้วงต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนโควิด และคำสั่งกักตัวภายในบ้านสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
เบื้องต้น ตำรวจออสเตรียประเมินว่ามีประชาชนเข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้ราว 44,000 คน ซึ่งถือเป็นการประท้วงใหญ่ครั้งล่าสุด หลังจากที่ออสเตรียกลายเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่ประกาศจะใช้กฎหมายบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า สำหรับประชาชนที่อายุเกิน 14 ปีขึ้นไป ยกเว้นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ซึ่งผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่า 600 ยูโร หรือราว 22,800 บาท และอาจเพิ่มสูงสุดถึง 3,600 ยูโร หรือราว 136,000 บาท หากยังคงไม่ยอมฉีดวัคซีน
ก่อนหน้านี้ออสเตรียได้กลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อวันละกว่า 10,000 คน ก่อนจะลดลงมาอยู่ที่ราว 4,000 คนในปัจจุบัน ซึ่งทางการออสเตรียตัดสินใจให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ต้องกักตัวภายในบ้าน เริ่มตั้งแต่วันนี้ (12 ธันวาคม) แต่ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนยังคงต้องกักตัวที่บ้านต่อไป
ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากถือป้ายว่า พวกเขาไม่ใช่กลุ่มนีโอนาซีหรือฮูลิแกนที่ออกมาก่อความวุ่นวาย แต่ต้องการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีน โดยอนาเลีย ครูสอนไวโอลินวัย 44 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประท้วงกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่แนวทางประชาธิปไตยแบบที่ควรจะเป็น พวกเราสามารถมีความเห็นและค่านิยมที่แตกต่างกัน แต่อยู่ร่วมกันอย่างเสรีได้”
เช่นเดียวกับมานูเอลา คุณแม่วัย 47 ปีที่เดินทางมาจากต่างเมืองเพื่อร่วมประท้วง โดยเธอกล่าวว่า “การบังคับฉีดวัคซีนนั้นเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างไม่น่าเชื่อ และทำให้ไม่สามารถส่งลูกไปเข้าร่วมชั้นเรียนต่างๆ เช่น ว่ายน้ำ หรือเทนนิสได้”
ปัจจุบันประชากรออสเตรียที่ฉีดวัควีนครบโดสแล้วมีประมาณ 68% ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศแถบยุโรปตะวันตกที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด โดยชาวออสเตรียจำนวนมาก และพรรคการเมืองขวาจัดอย่างพรรคเสรีภาพ (Freedom Party) ที่เป็นพรรคใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ยังมีความกังขาต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด และเรียกร้องให้มีการแสดงท่าทีเพื่อต่อต้านการบังคับฉีดวัคซีนของรัฐบาล
ภาพ: Photo by Dmitry Valeyev\TASS via Getty Images
อ้างอิง: