“เป็น 365 วันที่วิเศษที่สุดในชีวิต”
THE STANDARD POP ชวน มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ออกเดินทางสำรวจและบุกเบิกจักรวาลความฝัน ค้นหาแง่มุมและสิ่งที่มิวได้เรียนรู้ผ่านการลงหลักปักฐาน ณ ดาวเคราะห์ Mew Suppasit Studio ในฐานะศิลปิน นักแสดง และซีอีโอของค่าย
พาร์ตที่สองนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสเส้นทางในวงการบันเทิงตลอด 12 ปีอันยาวนานของมิวในจักรวาลความฝัน ช่วงเวลาที่เขาต้องเผชิญหน้ากับคำถามมากมาย และต่อสู้จนได้ครอบครองคำตอบที่เหมาะกับตัวเอง คำตอบที่ทำให้ช่วงเวลา 365 วันที่ผ่านมา กลายเป็น 1 ปีที่พิเศษที่สุดในชีวิตของเขา
ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ไม่จบสิ้นนี้ จึงเต็มไปด้วย มิว ศุภศิษฏ์ วัย 30 ปีที่เติบโตขึ้น และเติมเต็มเด็กชายมิวในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี
ติดตามชมพาร์ต 1 อดีตของ มิว ศุภศิษฏ์ อนุบาลหนึ่งถึงปริญญาเอก และความน่าจะเป็นในชีวิต ได้ที่: https://youtu.be/Eq0KuKnKh14
ติดตามชมพาร์ต 2 ปัจจุบันของ มิว ศุภศิษฏ์ กับอัลบั้ม 365 และหนึ่งปีที่ดีที่สุดในชีวิตได้ที่: https://youtu.be/LxipoFQ-Uvo
และสามารถรอติดตามพาร์ต 3 อนาคตของ มิว ศุภศิษฏ์ อยากเหยียบดวงจันทร์และความฝันในระดับโลก ได้ที่: https://youtu.be/gCOzrnMufCw
“ข้อดีของการเรียนแอ็กติ้ง คือการทำให้เรารู้จักเซนส์ของตัวเองมากขึ้น ตอนแรกเราอาจจะไม่ได้ถึงข้างในหรอก แต่ว่าก็จะเริ่มกลับมาที่ร่างกายตัวเอง ว่าหูเราได้ยินอะไรบ้าง การมองเห็น สัมผัสต่างๆ ลิ้น รสชาติตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
“เราเริ่มกลับมาเรื่อยๆ แล้วพึ่งมารู้ว่านี่คือสติ แค่อยู่กับปัจจุบัน แค่เรารู้ว่าตอนนี้มันเป็นอย่างไร เรานั่งอยู่บนเก้าอี้ ผมมองพี่กวงอยู่ กำลังพูดเรื่องนี้อยู่ แค่นี้คือการมีสติแล้ว”
มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ เล่าเรื่องการเรียนรู้ และทำความรู้จักกับคำว่า ‘สติ’ อย่างแท้จริงผ่านการเรียนแอ็กติ้ง ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งกับ THE STANDARD POP
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น เคยลองทำแล้ว ไม่สำเร็จสักที”
“สุดท้ายแล้วความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น แต่คุณต้องเลือก Way ให้เหมาะด้วย ถ้าคุณเลือกเส้นทางให้เหมาะสมกับตัวคุณ บางเส้นทางคนอื่นมันเล่าได้ไง ว่าฉันผ่านอันนี้มาแล้วมันสำเร็จ แต่มันเป็น Way เขาอะ คุณต้องเรียนรู้จากตัวคุณด้วย แล้วลองหาเส้นทางต่างๆ ที่จะทำให้ไปสู่จุดจุดนั้น
คือมันสำเร็จแหละ แต่จะช้าเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับเส้นทาง ว่าคุณเลือกเส้นทางที่มันถูกต้องกับตัวคุณ ถูกต้องกับช่วงเวลาหรือเปล่า”
นิยามของความพยายามสำหรับมิว ศุภศิษฏ์ ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งกับ THE STANDARD POP นั้น ไม่ใช่การจ้ำอ้าว แต่คือการเลือกเส้นทางที่เหมาะสมในการก้าวเดิน
ช่วงเวลา 12 ปี จะให้คิดหรือพูดอย่างไรก็ยังนานอยู่ดี แต่ มิว ศุภศิษฏ์ กลับพูดถึงความยาวนานนั้นในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์กับ THE STANDARD POP ว่า
“ตอนนี้ก็คิดว่านานอยู่ดี ก็คิดเหมือนกันว่านาน แต่ถามว่าคุ้มไหม…คุ้ม”
“ผมแค่รู้สึกว่าถ้าเมื่อก่อนมันเร็วกว่านี้ มันอาจจะไม่ใช่เป็นผมตอนนี้ก็ได้ สิ่งที่ผ่านมามันหล่อหลอมให้เป็นผมในปัจจุบัน ตอนนี้ข้อผิดพลาดต่างๆ สิ่งต่างๆ ที่ประสบพบเจอมา มันคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เป็นเราในตอนนี้ ที่ทำให้เราพบเจอแฟนๆ ในตอนนี้ ที่ทำให้เขามารักเราในตอนนี้”
“ถ้างานแสดงคือการที่เราได้ไปสำรวจ ไป Explore ชีวิตคนอื่น ได้ไปลองสวมชีวิตคนอื่น ได้ไปเรียนรู้ไอเดียของเขา ไปเรียนรู้ Logic ของเขา แต่ถ้างานเพลงคือการที่เราได้กลับมาอยู่กับตัวเอง กลับมาดูว่าสิ่งที่เราอยากถ่ายทอดคืออะไร สิ่งที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้างนะ อดีตเป็นอย่างไรบ้าง หรือว่าอนาคตที่เราจะเป็น เป็นอย่างไรบ้าง มันคือการได้กลับมาสู่เราตอนเด็กที่จริงใจกับตัวเองมากๆ”
ในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งกับ THE STANDARD POP มิว ศุภศิษฏ์ บอกกับเราว่างานเพลงทำให้เขาสามารถกลับไปเป็นเด็กชายมิวที่จริงใจกับตัวเองมากๆ ในอดีต
“เรื่องธานอส ผมรู้สึกว่ามันตีกลับมาเรื่องประชากรโลกได้ เพราะคำว่าประชากรโลกคือ เราอยู่ในโลกเดียวกันนั่นแหละ การมองภาพรวม การใช้จ่ายทรัพยากรต่างๆ คือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา มันเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักได้แล้ว”
“ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเราค่อนข้างจะยึดมั่นว่าฉันเป็นประเทศนี้ๆ แต่คุณอย่าลืมนะว่าทุกคนอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ ที่มีสภาพแวดล้อม ระบบนิเวศที่มันเชื่อมโยงกัน ถ้าเราไม่ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยเรื่องการจัดสรรทรัพยากร สิ่งเหล่านี้มันจะค่อนข้างไปในทิศทางที่มันแย่ลง จากเอฟเฟกต์ของธรรมชาติต่างๆ”
ใครๆ ก็ต่างมีซูเปอร์ฮีโร่ในดวงใจ แต่สำหรับ มิว ศุภศิษฏ์ กลับมีตัวร้ายในดวงใจนามว่า ธานอส ตัวละครแชร์อุดมการณ์เกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรธรรมชาติเช่นเดียวกับเขา ความหลงใหลที่มิวพูดถึงในการสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งกับ THE STANDARD POP
