×

‘วรรณ’ มองดัชนีหุ้นไทยปีหน้ามีลุ้น 1,800 จุด เตรียมบุกตลาดคริปโตฯ พัฒนาสินค้าใหม่เสิร์ฟผู้ลงทุน

11.11.2021
  • LOADING...
ONE

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด (ONE) มองหุ้นไทยปีหน้าวิ่งทะลุ 1,800 จุด รับอานิสงส์เปิดประเทศ การค้นพบยารักษาโควิด และราคาน้ำมันแพงเป็นปัจจัยชั่วคราว แนะลงทุนกลุ่มรีโอเพนนิง คาดราคาหุ้นพุ่งขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเตรียมบุกตลาดคริปโตเคอร์เรนซี พัฒนาสินค้าใหม่เสิร์ฟผู้ลงทุน

 

พจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในปีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้น โดยดัชนีตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 1,750-1,800 จุด จากปัจจัยบวกการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสนับสนุนให้เกิดการทำกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ

 

รวมทั้งยังได้รับผลบวกจากการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดที่สามารถดำเนินการได้อย่างดี ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น คงเป็นเพียงปัจจัยลบที่เข้ามากระทบแค่ชั่วคราวเท่านั้น

 

“ถ้าเปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำนิวไฮไปหลายรอบ ราคาหุ้นขึ้นไปจน PE สูงมากแล้ว และยังมีตัวแปรเรื่องปัญหาเงินเฟ้อ, การลด QE, การขึ้นดอกเบี้ยอีก แน่นอนว่าตลาดนี้เป็นตลาดหลักที่เราต้องลงทุน แต่ถ้าเทียบกับตลาดหุ้นไทยแล้ว ผมว่าน่าสนใจกว่า มีโอกาสมากกว่า การเติบโตของตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะมาจากฐานในปีนี้ แค่โต 10% ก็พอใจแล้ว”

 

สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจยังเป็นกลุ่มธีมเปิดเมือง เช่น กลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล กลุ่มขนส่ง และกลุ่ม Domestic Play ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง

 

พจน์กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุนจะทยอยเก็บหุ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงใกล้แตะระดับ1,600 จุด จึงเป็นกลุ่มผู้ลงทุนที่พยุงตลาด ทำให้ดัชนีหุ้นไทยไม่หลุดจากระดับดังกล่าวแม้จะมีปัจจัยใดๆ เข้ามากระทบ

 

“ผมมองว่าช่วงที่เหลือของปีนี้ดัชนีตลาดจะไม่หลุด 1,600 จุด ที่ผ่านมาแค่เข้าใกล้ระดับนี้กองทุนก็เข้ามาเก็บแล้ว เราจะมีเงินสดอยู่ในมือ ถ้าดัชนีตกลงมาเราก็จะเข้าซื้อ”

 

ล่าสุด บลจ.วรรณ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยได้เปิดตัวบริษัทในเครือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น ซึ่ง บลจ.วรรณ ถือหุ้น 99% เพื่อดำเนินธุรกิจเวลท์แมเนจเมนต์แบบครบวงจร ในฐานะเป็นตัวแทนและนายหน้า แนะนำการจัดสรรการลงทุนและลงทุนผ่านระบบ FundConnext และ Streaming Fund+ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เน้นกลุ่มลูกค้าบุคคลเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์การให้คำแนะนำลูกค้ารายบุคคลได้มากขึ้น

 

ทั้งนี้ บลจ.วรรณ ตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้จาก บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น ใน 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2565-2567) ประมาณ 350 ล้านบาท และคาดว่า บล.ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จะมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (Asset Under Advisory: AUA) ที่ 15,000 ล้านบาท ในปี 2565 และเติบโตขึ้นเท่าตัวเป็น 30,000 ล้านบาท ใน 3 ปี หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี 

 

อย่างไรก็ตาม การดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ บลจ.วรรณ จะรุกการเติบโตในส่วนกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลูกค้านิติบุคคล และสถาบันองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงตัวแทนขาย ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ในส่วนนี้ราว 100,000 ล้านบาท 

 

ขณะที่แผนงานในระยะ 3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายจะขยายการทำธุรกิจออกไปในระดับภูมิภาคเพิ่มเติมด้วย และบริษัทยังได้เริ่มเตรียมตัวสำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล คาดว่าจะสามารถออกผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้ช่วงกลางปีหน้า เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต เช่น ระบบการซื้อกองทุนด้วยเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี

 

ปัจจุบันธุรกิจ บลจ.วรรณ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 180,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะเติบโตขึ้นแตะ 200,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากสิ้นปี 2563 ขณะที่รายได้ในปีนี้จะเติบโตขึ้นแตะระดับ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200% และเติบโตแตะ 2,000 ล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า

 

ในปี 2565 บลจ.วรรณ มีแผนจะหันมารุกธุรกิจกองทุนรวมมากขึ้น เนื่องจากมองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เมื่อเปรียบเทียบกับฐานเงินฝากที่มีอยู่กว่า 10 ล้านล้านบาท กับสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ บลจ.ทั้งระบบที่ 5 ล้านล้านบาท และเมื่อเทียบกับการลงทุนต่างประเทศที่มีสัดส่วนถึงกว่า 90% ของฐานเงินฝาก โดยมองว่าสินทรัพย์ส่วนนี้ยังมีโอกาสที่จะเติบโตอีกกว่า 40%

 

“การเติบโตของกองทุนรวมในปีหน้า เราจะเน้นขายผ่านช่องทางเซลลิ่งเอเจนต์เป็นหลัก เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินเริ่มปรับตัวในการขายผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น และมีการเปิดขายกองทุนรวมผ่าน บลจ.ต่างๆ มากขึ้น ส่วนแผนการออกกองทุนรวมในช่วงปีหน้า ยังเน้นออกกองทุนต่างประเทศเป็นหลัก เพราะต่อทุนในประเทศมีจำนวนมากแล้ว เราสามารถเอามาต่อยอดได้

 

ส่วนกองทุนรวมที่ลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดต่างประเทศ ซึ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับเราปีนี้ เรามีแผนจะออกซีรีส์ 2 มูลค่ากองทุน 500-1,000 ล้านบาท ที่จะเสนอขายในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้” พจน์กล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X