เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Hankook Ilbo ที่อยู่ภายใต้เครือหนังสือพิมพ์เดียวกันกับ The Korea Times ของประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการรายงานข่าวว่า แบรนด์ Chanel ที่เกาหลีได้เริ่มใช้นโยบายใหม่ ‘one bag per person per year’ ที่ให้ลูกค้าสามารถซื้อกระเป๋าและแอ็กเซสซอรีบางรุ่นแค่หนึ่งชิ้นต่อปี ซึ่งพอข่าวนี้ถูกตีพิมพ์ออกไปก็ได้สร้างกระแสความสับสนมากมาย และทำให้หลายคนตีความว่าเป็นนโยบายใหม่ของ Chanel ที่ถูกใช้กันทั่วโลก
แต่ล่าสุดทาง Bruno Pavlovsky ประธานฝั่งแฟชั่นของ Chanel ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ WWD ช่วงที่ทางแบรนด์ไปจัดแฟชั่นโชว์คอลเล็กชัน Cruise 2021/22 ที่เมืองดูไบช่วงมหกรรม World Expo ว่านโยบายดั้งกล่าวไม่ได้เป็นความจริง และไม่ได้ถูกใช้ในตลาดใหญ่อย่างเกาหลีใต้ อเมริกา จีน หรือฝรั่งเศส
“เราไม่ได้มีการตั้งโควตาใดๆ เอาไว้ กลยุทธ์ของ Chanel คือการให้ลูกค้าได้มีโอกาสใช้สินค้าของเรา แน่นอนมันอาจจะมีบางครั้งที่ลูกค้าบางคนต้องการสินค้ามากกว่าที่มีในร้าน โดยหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นมันก็แล้วแต่การจัดการและความสามารถของลูกทีมในแต่ละร้านและประเทศที่จะทำให้ความต้องการของลูกค้าเกิดขึ้นได้ ซึ่งก็ใช้ความคล่องตัว (Agility) อยู่เยอะ”
มากไปกว่านั้นทาง Bruno ก็ได้เผยว่า แม้จำนวนสต๊อกกระเป๋าของ Chanel ได้ลดลงไปบ้างเมื่อปีก่อน เพราะสถานการณ์โควิดที่ส่งผลให้โรงงานการผลิตกระเป๋าบางแห่งถูกปิดตัวชั่วคราว แต่นั่นกลับไม่ใช่ปัญหาหลักที่น่าเป็นห่วง แต่ปัญหาสำคัญกว่าคือความต้องการของคนกลับมากยิ่งขึ้นเยอะ ซึ่งถึงแม้ Chanel จะเพิ่มการผลิตกระเป๋ามากยิ่งขึ้นทุกปี แต่ทางแบรนด์ก็ยืนยันจะไม่ผลิตในจำนวนที่มากกว่าหลายเท่าตัว เพราะนั่นไม่ใช่ทางออกที่มองว่าเหมาะสมที่สุด
ปิดท้าย ทาง Bruno ก็ได้ออกมาย้ำเตือนว่าราคาสินค้าของ Chanel โดยเฉพาะกระเป๋าจะขึ้นอีกแน่นอนเหมือนทุกปี เพราะด้วยเหตุผลที่ว่าราคาวัสดุเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าราคาจะขึ้นช่วงเดือนไหน
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง:
