หนังสือพิมพ์ Securities Times ของจีน รายงานว่า China Evergrande บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์แดนมังกร ที่กำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพคล่องอย่างรุนแรง สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้รอบแรกไปได้อย่างฉิวเฉียด หลังบริษัทได้ส่งเงินจำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์ให้กับ Citibank ซึ่งเป็นผู้จัดการตราสารหนี้ ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ ไปเมื่อวานนี้
รายงานข่าวดังกล่าวระบุว่า การส่งเงินให้กับ Citibank เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จะทำให้เจ้าหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดผ่อนผันการชำระ หรือช่วง Grace Period 30 วันในวันเสาร์นี้ของ Evergrande ได้รับเงินคืนทันเวลา ซึ่งจะช่วยให้ Evergrande ยังไม่ตกอยู่ในสถานะผิดนัดชำระ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมองว่าแม้ Evergrande จะเอาตัวรอดจากการผิดนัดชำระรอบดังกล่าวไปได้ แต่บริษัทก็ยังคงมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูงอยู่ โดยในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ จะมีตราสารหนี้มูลค่า 45.2 ล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดผ่อนผันการชำระ 30 วันที่ Evergrande ต้องจ่ายคืนอยู่อีกหนึ่งก้อน
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา Evergrande ได้ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรเพิ่มเติมอีก 3 ฉบับ มูลค่ารวม 148.1 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทจะต้องหาเงินมาชำระคืนภายในช่วงผ่อนผัน 30 วันเช่นกัน โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีหนี้พันธบัตรของบริษัทที่จะครบกำหนดต้องชำระคืนอีกถึง 573 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ในปีหน้าจะมีหนี้พันธบัตรที่ครบกำหนดชำระรออยู่อีก 7.7 พันล้านดอลลาร์
ตัวแทน Evergrande ยังคงไม่ตอบกลับอีเมลของสำนักข่าวที่ขอให้ยืนยันเรื่องการชำระหนี้ในวันที่ 23 ตุลาคมนี้ แต่เจ้าหนี้พันธบัตรรายหนึ่งเปิดเผยว่ายังไม่ได้รับเงินจากทั้ง Citibank และ Evergrande
ปัจจุบัน Evergrande ตกอยู่ในภาวะขาดแคลนเงินสดอย่างหนัก และกำลังดิ้นรนหาสภาพคล่องเข้ามาหมุนเวียนผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ การขายสินทรัพย์ การหานักลงทุนรายใหม่ และการเร่งยอดขาย แต่ดูเหมือนว่าความพยายามดังกล่าวจะยังไม่ประสบความสำเร็จ และบริษัทยังมีการผิดนัดชำระเจ้าหนี้ ทั้งธนาคาร เจ้าหนี้รายย่อย คู่สัญญา และซัพพลายเออร์อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ครึ่งหนึ่งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังก่อสร้างอยู่ราว 800 โครงการต้องถูกระงับลง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Evergrande เปิดเผยว่า แผนการขายหุ้นมูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ของบริษัทลูกแห่งหนึ่งให้กับคู่แข่งอย่าง Hopson Development ได้ล้มเหลวลง โดย Hopson ระบุสาเหตุที่ดีลดังกล่าวต้องล่มลงว่า เป็นเพราะ Evergrande ต้องการให้มีการชำระการซื้อขายเข้าบัญชีบริษัทโดยตรง ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ความพยายามในการขายสำนักงานในฮ่องกงของ Evergrande ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน
ในด้านยอดขายซึ่งเป็นที่มาของสภาพคล่องหลักของ Evergrande ก็ตกลงรุนแรงเช่นกัน โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1-20 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายได้เพียง 3.65 พันล้านหยวน เทียบกับ 1.42 แสนล้านหยวนในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อ้างอิง:
