วันนี้ (21 ตุลาคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดเริ่มคลี่คลาย มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง มาจากความร่วมมือของประชาชนและการเร่งฉีดวัคซีนที่รวดเร็วแบบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย รัฐบาลจึงได้ปรับมาตรการสำหรับกิจการ สถานประกอบการ และมาตรการการเดินทาง ประกอบกับในช่วงวันที่ 21-24 ตุลาคม 2564 เป็นช่วงวันหยุดยาว ประชาชนอาจจะเดินทางกลับบ้าน หรือไปท่องเที่ยว ทำให้เกิดการรวมตัวกันมากขึ้น อาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดเป็นกลุ่มก้อนระลอกใหม่ได้
กรมควบคุมโรคจึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการเดินทางเข้าจังหวัดปลายทาง จัดเตรียมเอกสารส่วนตัว อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ เอกสารยืนยันการฉีดวัคซีน หรือเอกสารยืนยันการตรวจหาเชื้อโควิด พร้อมทั้งเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention: UP) โดยเน้นการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากรับประทานอาหารร่วมกัน ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว หลีกเลี่ยงการตั้งวงสังสรรค์ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และควรสังเกตอาการตนเองหลังเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวแล้ว หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ควรตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจหาเชื้อด้วยตนเองหรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรอง
นพ.โอภาสกล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการของรัฐบาลและ ศบค. ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น ขอฝากผู้ดูแลแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดแลนด์มาร์กที่มีการรวมตัวกันของนักท่องเที่ยว ให้เน้นย้ำมาตรการ COVID FREE Setting โดยมีการทำความสะอาด จัดระบบระบายอากาศ เว้นระยะห่าง ให้พนักงานรับการตรวจโควิดด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK ) ทุก 7 วัน ที่สำคัญพนักงานต้องรับวัคซีนครบโดสแล้ว หากพนักงานยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนให้เร่งติดต่อโรงพยาบาลหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อดำเนินการฉีดวัคซีน ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเร่งจัดสรรวัคซีนให้ได้ร้อยละ 50 ของประชากรทั้งประเทศภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อรองรับการเปิดเมือง 1 พฤศจิกายน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422