วันนี้ (12 ตุลาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางเข้าพบอัยการตามนัดหมายส่งตัว โดยพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ที่ได้มีการดำเนินคดีในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีจัดไลฟ์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด
ในวันเดียวกันนี้ ธนาธรยังมีนัดเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่สืบเนื่องกัน หลังจากธนาธรเข้าให้การในชั้นศาลในกรณีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฟ้องศาลขอให้มีการนำไลฟ์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับวัคซีนออกจากระบบคอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ธนาธรเปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วไม่มีความกังวลต่อคดีของตัวเอง เพราะตนเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมอยู่บ้าง กระบวนการทางกฎหมายจึงไม่ได้ยากลำบากนัก แม้จะเป็นกระบวนการที่ไม่ปกติและไม่ยุติธรรมก็ตาม
แต่สิ่งที่ตนกังวลมากกว่าคือ ในยุคนี้มีคนอีกมากที่ถูกกลั่นแกล้งจากกระบวนการทางกฎหมาย ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทุกวันนี้เรามีคดีการเมืองกว่า 800 คดี มีผู้ถูกกล่าวหากว่า 1,500 คน เฉพาะมาตรา 112 เอง มีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 150 คดี ไม่มียุคไหนที่เป็นยุคมืดที่รัฐบาลใช้กฎหมายกดขี่ปิดปากประชาชนเท่านี้มาก่อน
ธนาธรกล่าวต่อไปว่า คนเหล่านี้ไม่มีต้นทุนทางสังคม ทำให้กระบวนการทางกฎหมายไม่ถูกต้อง อย่างเช่นในกรณีของ เบนจา อะปัญ นักกิจกรรมที่เพิ่งถูกไม่ให้ประกันตัวจากการถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 เป็นกรณีที่ชัดมาก เพราะเบนจาเป็นคนเดินทางไปมอบตัวด้วยตนเอง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่กลับไม่ได้ประกันตัว แล้วศาลยังบอกว่ากลัวจะไปทำความผิดซ้ำ ทั้งยังไม่ได้มีการพิพากษาว่าเป็นความผิดเลย ทำให้ตนต้องตั้งคำถามต่อการให้เหตุผลเช่นนี้
“แทนที่จะให้ความสนใจกับคดีผม ให้ความสนใจกับคดีเหล่านี้ดีกว่า นี่คือความไม่เป็นธรรมที่ถูกยัดเยียดให้กับคนตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีต้นทุนทางสังคม ผมอยากให้สังคมร่วมกันให้ความสนใจในคดีเหล่านี้ และออกมาปกป้องพวกเขาร่วมกัน” ธนาธรกล่าว