เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การเจรจาขยายเพดานหนี้ของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่ยังคงไม่สามารถหาข้อยุติได้ในขณะนี้ เนื่องจากเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยทันทีหากสภาคองเกรสไม่อาจขยายวงเงินกู้ยืมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 18 ตุลาคมนี้
ความเห็นดังกล่าวของเยลเลนมีขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทางรายการ Squawk Box ของสถานีโทรทัศน์ CNBC โดยเจ้าตัวย้ำชัดว่าการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้จะเป็นหายนะครั้งใหญ่ของประเทศ และเตือนให้ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรคเดโมแครต กับ ชัค ชูเมอร์ ประธานวุฒิสภาสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกัน เร่งพิจารณาและรับรองข้อเสนอของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ต้องการให้ขยายเพดานหนี้ก่อนกำหนดเส้นตายที่จะมาถึง เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ปัจจุบัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการฉุกเฉินพิเศษชั่วคราวในการอนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยงานของรัฐ หลังจากเพดานหนี้ขณะนั้นสิ้นสุดลงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าที่ผ่านมา สหรัฐฯ จะไม่เคยผิดนัดชำระหนี้มาก่อน แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น, การทำลายเครดิตความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในอนาคต และกระทบต่อความถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงความต้องการสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะทุนสำรองระหว่างประเทศ
เยลเลนกล่าวว่า เป็นที่รับทราบและยอมรับกันทั่วโลกว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากที่สุด ส่วนหนึ่งเนื่องจากสถานะทุนสำรองระหว่างประเทศของสกุลเงินดอลลาร์ อีกส่วนหนึ่งก็คือเครดิตความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ใดๆ มาก่อน ดังนั้นจึงไม่อาจเสี่ยงให้เกิดความผิดพลาดแม้เพียงครั้งเดียว ที่จะส่งผลเสียในระยะยาวและไม่อาจกู้คืนได้
อ้างอิง: