บ่ายวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา บนชั้น 61 ของโรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ ท่ามกลางแสงแดดแรงกล้า สองยอดนักชกมาเผชิญหน้ากัน โยชิตะกะ นาอิโตะ แชมป์โลกรุ่น Strawweight จากญี่ปุ่นเผชิญหน้ากับ อเล็กซ์ ซิลวา ผู้ท้าชิงชาวบราซิล
ท่ามกลางบรรดาสื่อมวลชนที่เข้ามาเก็บภาพบรรยากาศงานแถลงข่าวของ ศึก ‘ONE: Warriors Of The World Official Face-off’ ที่จัดขึ้นโดยบริษัท วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Championship) ผู้ผลิตรายการกีฬาที่ใหญ่ที่สุดระดับเอเชีย
ระหว่างที่นักสู้ทั้งสองกำลังมองหน้ากันอย่างดุเดือด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังไฟต์นี้ คงหนีไม่พ้น กมล (สุกี้) สุโกศล แคลปป์ ประธานบริษัท วัน แชมเปี้ยนชิพ ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ผลักดันศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ในไทย
วัน แชมเปี้ยนชิพ เริ่มสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะฮีโร่นักชกชาวไทย อย่าง เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์เวทีมวยลุมพินี และอดีตแชมป์รายการ วัน แชมเปี้ยนชิพ รุ่นสตรอว์เวต รวมถึง ‘ริกะ อิชิเกะ’ นักมวย MMA หญิงคนแรกของไทย ที่พกรอยยิ้มและความสามารถในการต่อสู้มาช่วยปลุกกระแส MMA ในประเทศไทย
THE STANDARD ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับ สุกี้ ถึงความพอใจในการจัดแข่งขันศึกวัน แชมเปี้ยนชิพที่ผ่านมา และคาดการณ์ถึงการเติบโตของวัน แชมเปี้ยนชิพ ในเอเชียที่ก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ปี 2011 โดยมีฐานการดำเนินงานในประเทศสิงคโปร์
หากพูดถึงกีฬา MMA แน่นอนว่าต้องให้การยอมรับว่า UFC หรือ Ultimate Fighting Championship เป็นผู้เริ่มต้นสร้างชื่อเสียงให้กับกีฬาที่เรียกว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสม ซึ่งหลังจากก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1993 ปัจจุบัน UFC ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ และจากไฟต์ล่าสุดที่นำเอา ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดนักมวยสากลไร้พ่ายมาชกกับ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ ยอดนักสู้ MMA ชาวไอริชจาก UFC ได้ช่วยกระตุ้นความสนใจในตัวคอเนอร์ และวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมไปทั่วโลก
สุกี้ เผยว่าจุดเริ่มต้นคือ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้งวัน แชมเปี้ยนชิพ ที่โตมาด้วยกัน ได้เริ่มต้นคุยกันถึงเรื่องการทำ วัน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นเขายังมีความกังวลว่ารายการนี้จะสามารถต่อสู้กับทาง UFC ได้อย่างไร
“คำถามแรกที่ผมถามคือ คุณจะไปแข่งกัน UFC ยังไง”
“เขาบอกง่ายมาก เราเน้นคนเอเชีย เราเน้นนักชกเอเชีย และเราสร้างตรงนี้ขึ้นมาเป็น ‘เอเชียฮีโร่’ และในแง่นั้นเราคิดว่าทำค่อนข้างสำเร็จ”
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับไอเดียที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้วจากบทสนทนาระหว่าง สุกี้ และชาตรี ถือเป็นจุดที่ลงตัว เพราะศิลปะการต่อสู้แบบผสมนั้น มีหัวใจสำคัญที่การนำเอาศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่างๆ มาพบกัน เพื่อพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วใครกันแน่ที่ดีที่สุด ซึ่งในทวีปเอเชียถือเป็นแหล่งกำเนินของศิลปะการต่อสู้หลายชนิด
“โดยส่วนตัวผมมองว่า MMA สนุกกว่ามวยสากล เพราะ MMA มีความว่องไวมาก ถ้าดูกระแสทั่วโลกเราจะเห็นว่า MMA โตขึ้นมาก และคงไปพีกสุดที่ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ เพราะเขาคือ มูฮัมหมัด อาลี ของวงการ MMA เพราะเป็นนักชกที่โปรโมตตัวเองเก่ง”
The Guardian สำนักข่าวในประเทศอังกฤษมองว่า MMA เป็นกีฬาที่สร้างขึ้นมาสำหรับโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยระยะเวลาการชกที่สั้น และไม่ต้องเน้นคนพากย์มากเท่ากีฬาชนิดอื่นๆ และที่สำคัญไฮไลต์ในไฟต์ต่างๆ เหมาะสมแก่การนำไปสร้างแอนิเมชัน หรือ GIF ไว้ใช้ในโลกโซเชียลมีเดีย เพราะแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องใช้คำอธิบายมากนัก
ลอเรนโซ่ เฟอร์ติต้า (Lorenzo Fertitta) หนึ่งในผู้ร่วมทุนซื้อแบรนด์ UFC ด้วยเม็ดเงินสองล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปี 2000 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่ทำให้ UFC ประสบความสำเร็จคือ คนทั่วโลกเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องอธิบาย
“สิ่งที่ทำให้ UFC ประสบความสำเร็จคือ ผู้คนทั่วโลกเข้าใจในทันที แค่ผู้ชายสองคนต่อสู้กัน”
ขณะที่ อารี เอ็มมานูเอล (Ari Emanuel) ผู้บริหาร WME-IMG ที่ซื้อแบรนด์ UFC มาจากพี่น้องเฟอร์ติต้า ด้วยเงินจำนวนสี่พันล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งเป้าให้ UFC เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่กว่าฟุตบอลโลกในอนาคต
กลับมาที่ฝั่งเอเชียที่ วัน แชมเปี้ยนชิพ เพิ่งเริ่มต้นมาเพียง 6 ปีแต่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสุกี้ยอมรับว่าในประเทศสหรัฐฯ นั้น กีฬา MMA พัฒนาไปไกลแล้ว หลังจากที่เริ่มต้นมาเป็นเวลากว่า 24 ปี แต่ในขณะที่เอเชียและประเทศไทยนั้น เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่วัน แชมเปี้ยนชิพ ต้องเน้นสร้างนักสู้ที่เป็นฮีโร่ชาวเอเชีย
“อเมริกาไปถึงจุดหนึ่งแล้ว เพราะผ่านมา 24 ปีแล้ว แต่ในเอเชียผมยังมองว่าไปได้อีกไกล เดี๋ยวนี้ในไทยมีค่ายมวยที่หันมาจับ MMA มากขึ้น หันมาสอนมากขึ้น แต่ก็ถือว่าเพิ่งเริ่ม”
“ในโลก MMA เราต้องพยายามสร้างดารามากขึ้น ถ้าเราจะโตไปมากกว่านี้ ในเอเชียเพิ่งเริ่ม ส่วนในไทยถ้าถามว่าสำเร็จหรือยัง ผมคิดว่าไม่ แต่เรามาไกลจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่อนข้างมาก”
“แผนการต่อจากนี้คือการขยายเข้าญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนจีนเราเข้าไปแล้ว แต่จีนเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เราอยากจะไปเพิ่มที่ปักกิ่งกับเซี่ยงไฮ้ ส่วนเมืองไทยอยากเข้าตลาดเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตหรือพัทยา”
สำหรับศิลปะการต่อสู้แบบผสมนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย โดยส่วนสำคัญนั้นมาจากการที่มวยไทยได้การยอมรับว่าเป็นศิลปะการต่อสู้แบบยืนที่ดีที่สุด จนทำให้ค่ายมวยหลายที่ในประเทศไทย เริ่มต่อยอดจากข้อได้เปรียบนี้ และเพิ่มการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ประเภทอื่น จนกลายเป็นศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ MMA รวมถึงชื่อเสียงของมวยไทย ยังดึงดูดนักชก MMA ระดับโลกให้มาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศไทย จึงเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับวงการมวยไทยได้ไม่น้อย
สำหรับใครที่อยากลองสัมผัสบรรยากาศการต่อสู้แบบ MMA สามารถซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขัน ONE: Warriors Of The World จะจัดขึ้นที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยสุกี้ได้เชิญชวนให้แฟนกีฬาชาวไทยเข้ามาให้กำลังใจนักชกไทยและต่างประเทศที่จะขึ้นเวทีกันในวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคมนี้ด้วย
อ้างอิง: