เงินบาทเช้าวันนี้ (17กันยายน) อ่อนค่าลงแตะระดับ 33.17 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่า ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร (บอนด์) ไทยอีกครั้ง
พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เงินบาทยังคงเผชิญปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ามากกว่าแข็งค่า โดยในระยะสั้นอาจเห็นแรงขายบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติม จากความกังวลว่าปริมาณการออกบอนด์ในอนาคตอาจสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ผู้เล่นบางส่วนยังปิดสถานะเก็งกำไรเงินบาทแข็งค่า หลังสถานการณ์การระบาดในประเทศที่อาจเจอการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งภาพดังกล่าวก็อาจกดดันให้นักลงทุนต่างชาติทยอยขายหุ้นไทยได้บ้าง หากเริ่มมีสัญญาณการระบาดระลอกใหม่กลับเข้ามาชัดเจนมากขึ้น โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.05-33.25 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับในต่างประเทศ ผู้เล่นตลาดการเงินฝั่งสหรัฐฯ ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนักและยังอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว ท่ามกลางความกังวลว่าความผันผวนในตลาดการเงินอาจปรับตัวสูงขึ้นมากในคืนวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่สัญญาฟิวเจอร์สและออปชันของทั้งหุ้นรายตัวและดัชนีครบกำหนด ทำให้อาจมีการปรับสถานะถือครองสินทรัพย์ขนานใหญ่ โดยนักวิเคราะห์ของ S&P Dow Jones ได้ประเมินว่า อาจมีการซื้อขายหุ้นถึง 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อปรับสถานะถือครองหลังสัญญาออปชันและฟิวเจอร์สครบกำหนด
นอกจากนี้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจกังวลว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาดอาจหนุนโอกาส Fed ทยอยลด QE หลังจากที่ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนสิงหาคม พุ่งขึ้นราว +0.7% จากเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่ตลาดมองว่าจะหดตัว -0.8% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงก่อนเปิดเทอมในสหรัฐฯ (Back to School) รวมถึงการจับจ่ายของวัยทำงานที่เริ่มกลับไปทำงานกันมากขึ้น (Back to Office)
ทั้งนี้ ภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในฝั่งสหรัฐฯ ได้กดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ย่อตัวลง -0.18% เช่นเดียวกันกับ ดัชนี S&P 500 ปิดตลาด -0.15%
ส่วนทางด้านตลาดยุโรป ดัชนี STOXX 50 รีบาวด์กลับขึ้นมากว่า +0.58% หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาปฏิเสธบทวิเคราะห์ของทาง Financial Times ที่ระบุว่า ECB อาจทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าคาด หากเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นแตะเป้า 2% ในปี 2025 นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากหุ้นในธีม Reopening อาทิ กลุ่มท่องเที่ยวและการบิน ตามภาพเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวได้ดี
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าคาด ประกอบกับผู้เล่นบางส่วนต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อรับมือกับความผันผวนจากการที่สัญญาฟิวเจอร์สและออปชันในสหรัฐฯ ครบกำหนด ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใกล้ระดับ 92.90 จุด
สำหรับวันนี้ คาดว่าตลาดยังคงติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยตลาดประเมินว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Consumer Sentiment) ในเดือนกันยายน อาจพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 72 จุด จาก 70.3 จุด สะท้อนว่าชาวอเมริกันยังคงเชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ จากการฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดแรงงาน รวมถึงแผนการทยอยเปิดเมืองที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และการเตรียมแจกจ่ายวัคซีนโดสที่ 3 ในช่วงปลายเดือนกันยายน