เกิดอะไรขึ้น:
เย็นวานนี้ (31 กรกฎาคม) บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เผยว่าบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท วีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (Visy, ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารขึ้นรูปในประเทศไทย) เพิ่มเติมอีกในสัดส่วน 20% จากผู้ถือหุ้นเดิม คิดเป็นมูลค่า 1.37 พันล้านบาท ส่งผลให้ SCGP มีสัดส่วนการถือหุ้นใน Visy เพิ่มขึ้นจากเดิม 80% เป็น 100% โดยการถือหุ้นใน Visy ดำเนินการผ่านบริษัท เอสซีจีพี รีจิด พลาสติกส์ จำกัด (SCGPRP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด
ทั้งนี้ Visy เป็นบริษัทชั้นนำที่ผลิตบรรจุภัณฑ์กดขึ้นรูปด้วยความร้อน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร น้ำหนักเบา และรีไซเคิลได้ โดยมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าของแบรนด์ผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (1 กันยายน) ราคาหุ้น SCGP ปรับตัวลง 2.14%DoD สู่ระดับ 68.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลงเล็กน้อย 2.98 จุด หรือลดลง 0.18%DoD สู่ระดับ 1,635.77 จุด (ข้อมูล ณ เวลา 12.30 น.)
มุมมองระยะสั้น:
หากอิงข้อมูลจาก Business Online พบว่าในปี FY2563 (กรกฎาคม 2562 ถึงมิถุนายน 2563) Visy รายงานรายได้ที่ 1.8 พันล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 362 ล้านบาท สะท้อนถึงอัตรากำไรสุทธิที่ระดับแข็งแกร่งที่ 20% (เทียบกับอัตรากำไรสุทธิของ SCGP ที่ราว 7%) ทั้งนี้ เมื่อรวมหุ้น Visy ที่ซื้อเพิ่มเข้ามา 20% ในประมาณการกำไรของ SCGP จะหนุนให้ประมาณการกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้นอีก 0.3% และ 0.7% ในปี 2565
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปคือการลงทุนใน Deltalab เสร็จใน 3Q64 ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรของ SCGP ปรับเพิ่มขึ้นอีก ~3% (ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการผลประกอบการในปัจจุบัน)
มุมมองระยะยาว:
ในระยะกลางถึงยาว SCGP ตั้งเป้าหมายเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ในอาเซียนผ่านทางการขยายกำลังการผลิตของบริษัท หรือทำ M&P ในการนำรูปแบบการทำธุรกิจแบบบูรณาการในแนวตั้งในประเทศไทยไปใช้ในประเทศอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงตลาดสู่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เติบโตสูง และสร้างสรรค์โซลูชันผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น ให้สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน