วันนี้ (26 สิงหาคม) รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ (สทพ.) ซึ่งมี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ประจำปีงบประมาณ 2565 จำนวน 7.3 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 4 แผนงาน คือ
- การขจัดการเลือกปฏิบัติและความไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ
- การสร้างความตระหนักเรื่องความเท่าเทียมระหว่างเพศในสังคม
- การสนับสนุนโครงการเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศการบริหาร
- กองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ
รัชดากล่าวว่า จุรินทร์ยังได้ติดตามเรื่องการดำเนินการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ ความไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ซึ่งขณะนี้ระเบียบใหม่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นคำร้อง การพิจารณา และการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ ได้มีผลบังคับใช้แล้ว
โดยคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (วลพ.) ต้องดำเนินการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 96 วันนับแต่วันรับเรื่อง จากเดิมที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา ทำให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาล่าช้า จึงเกิดความไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ วลพ. จำนวน 61 เรื่อง โดยมากเกี่ยวข้องกับการจำกัดสิทธิ์การแต่งกายและไว้ทรงผมตามเพศสภาพในการเข้าเรียน การสอบวัดผล การฝึกปฏิบัติงาน การเข้าอบรมวิชาชีพ และการแต่งกายชุดครุยวิทยฐานะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร
รัชดากล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการฯ ส่งเสริมให้สังคมปรับหลักคิด มีความเข้าใจ และตระหนักในความสำคัญของความเท่าเทียมระหว่างเพศ เพราะจะเป็นการสร้างความเท่าเทียมในสังคมให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง และได้ดำเนินการผลักดันนโยบายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ส่งเสริมให้องค์กรมีนโยบาย กฎระเบียบ และกลไกต่างๆ ที่เอื้อต่อการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ