*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของ Words Bubble Up Like Soda Pop*
Words Bubble Up Like Soda Pop ถ้อยคำเอ่อล้นด้วยหัวใจรัก คือภาพยนตร์แอนิเมะจาก Netflix ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี บริษัท Flying Dog ค่ายเพลงผู้รับหน้าที่ผลิตเพลงให้กับแอนิเมะชื่อดังหลายเรื่อง เช่น Btooom! (2012), Date A Live (2013), Ghost in the Shell: SAC_2045 (2020), Sonny Boy (2021) ฯลฯ โดยได้ อิชิกูโระ เคียวเฮ ผู้กำกับแอนิเมะโรแมนติกเรียกน้ำตาอย่าง Your Lie in April (2014) มานั่งแท่นผู้กำกับ
หนังพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ เชอร์รี เด็กหนุ่มขี้อายที่มักจะสวมเฮดโฟนอยู่ตลอดเวลาเพื่อหลีกหนีจากผู้คนรอบข้าง เขาจึงมักจะหมกมุ่นอยู่กับการแต่งกลอนไฮกุและนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย (ที่ไม่มีใครกดติดตามเขาเลยสักคน)
วันหนึ่งเชอร์รีได้บังเอิญมาพบกับ สไมล์ หญิงสาวผู้โด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ต แต่เธอกลับชอบใส่มาสก์อยู่ตลอดเวลาเพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นฟันกระต่ายของตัวเอง และการได้มาพบกันดั่งโชคชะตาก็กลายจุดเริ่มต้นของความรักระหว่างชายหญิงสองคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
ก่อนจะว่ากันถึง Words Bubble Up Like Soda Pop เราอยากชวนผู้อ่านแวะมาทำความรู้จักกับ กลอนไฮกุ กันสักเล็กน้อย เพราะกลอนไฮกุมักจะถูกหยิบยกมากล่าวถึงในหนังอยู่หลายครั้ง
กลอนไฮกุหรือบทกวีไฮกุ เป็นบทกวีโบราณของญี่ปุ่นที่ต่อยอดมาจากบทกวีประเภทไฮไคในช่วงศตวรรษที่ 17 และเริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยความโดดเด่นของกลอนไฮกุ จะมีความยาวเพียง 3 วรรค มักเลือกใช้คำง่ายๆ เพื่อสื่อความหมายอย่างตรงไปตรงมา และนำเสนอเรื่องราวของธรรมชาติและวิถีชีวิตของผู้คน
“ประภาในคืนฤดูร้อน เริ่มก่อนเวลา ในยามอาทิตย์อัสดง” หนึ่งในกลอนไฮกุที่เชอร์รี ตัวละครหลักของเรื่องแต่งขึ้น
กลับมาที่เรื่องราวของ Words Bubble Up Like Soda Pop องค์ประกอบแรกของหนังที่เตะตาเราตั้งแต่แรกเห็น คืองานภาพที่โดดเด่นด้วยสีสันฉูดฉาด ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครไปจนถึงตึกรามบ้านช่องต่างๆ ซึ่งบรรยากาศเหล่านี้ค่อนข้างส่งผลให้พล็อตเรื่องที่เล่าถึงเรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มขี้อายและหญิงสาวผู้ไม่มั่นใจในตัวเองดูน่าติดตามมากขึ้นทีเดียว
จนกระทั่งเราได้ดูหนังเรื่องนี้จนจบ เราพบว่าเรื่องราวความรักระหว่างเชอร์รีและสไมล์กลับไม่ได้โดดเด่นสะดุดตาเท่างานภาพ จังหวะการเล่าเรื่องของหนังค่อนข้างจะเรียบนิ่ง ไม่ได้มีจุดพลิกผันหรือปมปัญหาใหญ่ๆ ให้ผู้ชมได้ลุ้นระทึกและเอาใจช่วยตัวละครหลักเท่าไรนัก
ในจุดนี้เราจึงคิดว่า Words Bubble Up Like Soda Pop อาจจะไม่เหมาะกับผู้ชมที่ชื่นชอบแอนิเมะที่เล่าเรื่องกระชับ ฉับไว เนื้อเรื่องเข้มข้น สนุกสนาน เพราะความเรียบนิ่งของตัวหนังสามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อและอยากปิดหน้าจอได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกว่าความเรียบนิ่งและจังหวะการเล่าเรื่องที่ไม่รีบร้อนของ Words Bubble Up Like Soda ก็มีจุดเด่นอยู่ในตัวเช่นเดียวกัน
จุดเด่นประการแรกที่เราอยากกล่าวถึงคือ ดนตรีประกอบเพราะๆ ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายซิตี้ป๊อปจากปลายปากกาของ อุชิโอะ เคนซูเกะ คอมโพเซอร์ที่เคยประพันธ์เพลงประกอบให้กับแอนิเมะชื่อดังอย่าง A Silent Voice (2016) ที่เข้ามาแต่งแต้มสีสันให้กับความเรียบนิ่งของหนัง และชวนให้เราดื่มด่ำไปบรรยากาศและงานภาพได้เป็นอย่างดี
และอย่างที่เรากล่าวไว้ในตอนต้นว่า กลอนไฮกุคือหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของหนังที่บ่งบอกลักษณะนิสัยของตัวละครหลักอย่างเชอร์รี ความเรียบนิ่งของหนังจึงเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สังเกตบรรยากาศโดยรอบและลองตีความหมายของกลอนไฮกุที่เชอร์รีแต่งขึ้น ซึ่งเสริมให้กลอนไฮกุภายในเรื่องพิเศษมากกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน ภายใต้เรื่องราวความรักที่ไม่ได้หวือหวา Words Bubble Up Like Soda ยังสอดแทรกประเด็นคุณค่าของ ‘ของเก่า’ ที่กำลังค่อยๆ ถูก ‘ทอดทิ้ง’ ไปตามยุคสมัยที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ผ่านเรื่องราวของคุณปู่ฟุจิยามะที่ทำแผ่นเสียงของภรรยาผู้เป็นที่รักหายไปอย่างน่าเสียดาย เชอร์รีและสไมล์จึงอาสาช่วยหาแผ่นเสียงเพื่อให้คุณปู่ได้เปิดฟังแผ่นเสียงอีกครั้ง
เพราะสำหรับของเก่าบางอย่างที่กักเก็บความทรงจำของใครสักคนไว้ เมื่อกาลเวลาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป มันก็จะยิ่งส่งให้สิ่งของเหล่านั้นกลายเป็น ‘สิ่งของล้ำค่า’ ในความรู้สึกของใครสักคนอย่างเท่าทวีคูณ
หากคุณได้ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ลองลุกไปหยิบ ‘ของเก่า’ ที่คุณอาจหลงลืมไปแล้วว่ามันอยู่ไหน ขึ้นมาปัดฝุ่นความทรงจำใหม่ดูอีกครั้ง เพื่อไม่ให้คุณค่าของสิ่งของเหล่านั้นต้องถูกทอดทิ้งไปตามเวลา
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่:
ภาพ: IMDb
อ้างอิง: