โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำแนะนำเมื่อวันศุกร์ (16 กรกฎาคม) เพื่อเตือนบริษัทสัญชาติอเมริกันเกี่ยวกับการทำธุรกิจในฮ่องกง โดยคำแนะนำดังกล่าวระบุว่า บริษัทสัญชาติอเมริกันอาจเผชิญกับการสอดแนมที่คุกคามความลับขององค์กร และยังเตือนว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐฯ อาจถูกบังคับให้ส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานและลูกค้าของบริษัท
นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้สั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนจำนวน 7 ราย เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง
ไบเดนระบุว่า สถานการณ์ในฮ่องกงย่ำแย่ลง ในขณะที่รัฐบาลจีนไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับฮ่องกง โดยในปีที่แล้วฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่สร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้สนับสนุนประชาธิปไตย และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทางการฮ่องกงได้จับกุมนักเคลื่อนไหวและนักข่าวจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงชาวอเมริกันด้วย
ขณะที่ จ้าวลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ออกมาประณามการดำเนินการของ โจ ไบเดน โดยกล่าวว่า กิจการของฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีนล้วนๆ และไม่มีประเทศอื่นใดที่มีสิทธิ์จะแสดงความเห็นที่ขาดความรับผิดชอบหรือแทรกแซงด้วยวิธีใดๆ โดยพลการ
นอกจากนี้ จ้าวลี่เจี้ยน ยังกล่าวด้วยว่า จีนจะตอบโต้มาตรการต่างๆ ของสหรัฐฯ อย่างแข็งกร้าว
ทั้งนี้ คำเตือนของ โจ ไบเดน ทำให้เกิดความกังวลต่อกลุ่มธนาคารสัญชาติอเมริกัน ถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจในฮ่องกงในอนาคต หลังจากที่ทุ่มเทและพยายามมาหลายทศวรรษ เพื่อสร้างจุดยืนทางธุรกิจในตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมีผู้บริโภคอยู่กว่า 1.4 พันล้านคน
ไมค์ มาโย นักวิเคราะห์ธนาคารของ Wells Fargo & Co. ให้สัมภาษณ์ว่า คำเตือนจาก โจ ไบเดน อาจทำให้เกิดการทบทวนแผนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ในทศวรรษหน้า เพราะจีนถือเป็นโอกาสในการเติบโตที่สำคัญ มองว่า อาจไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับธนาคารในทันที แต่ในระยะยาวย่อมสร้างผลกระทบอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ลาร์รี ฟิงก์ ผู้บริหารจาก BlackRock Inc. รวมถึง ไบรอัน มอยนิฮาน ของ Bank of America Corp. กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนไม่ได้ทำให้พวกเขาสะทกสะท้าน และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในฮ่องกง
นอกจากนี้ยังมีหลายบริษัทด้านการเงิน ซึ่งเป็นสมาชิกในหอการค้าอเมริกันในฮ่องกง หรือ AmCham อาทิ Citigroup, JPMorgan Chase & Co. และ Goldman Sachs Group Inc. ได้ให้ข้อมูลว่า เพิ่งซื้อสำนักงานแห่งใหม่ใจกลางฮ่องกง และวางแผนที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐของฮ่องกงด้วย
“หอการค้าฯ ตระหนักดีถึงสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ และความเสี่ยงของสถานการณ์ เราอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนสมาชิกของเราในการรับมือกับความท้าทายและความเสี่ยง ในขณะเดียวกันก็คว้าโอกาสในการทำธุรกิจในภูมิภาคนี้ด้วย” หอการค้าอเมริกันในฮ่องกงระบุ
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/07/16/biden-says-us-will-warn-companies-about-hong-kong-situation.html
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-07-16/wall-street-s-china-dreams-get-jolt-from-u-s-hong-kong-warning?srnd=premium-asia&sref=CVqPBMVg
- https://www.wsj.com/articles/u-s-warns-businesses-over-rising-risks-in-hong-kong-under-china-crackdown-11626429600?mod=business_lead_pos1