เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 2Q64 ของหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์และลีสซิ่งภายใต้การวิเคราะห์ของ SCBS ซึ่งประกอบด้วย บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC), บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC), บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) และ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น MTC ปรับตัวขึ้น 0.8%MoM สู่ระดับ 62.00 บาท, ราคาหุ้น KTC ปรับตัวลง 1.4%MoM สู่ระดับ 69.00 บาท, ราคาหุ้น SAWAD ปรับตัวลง 4.8%MoM สู่ระดับ 70.00 บาท และราคาหุ้น TIDLOR ปรับตัวลง 7.4%MoM สู่ระดับ 40.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวลง 3.1%MoM สู่ระดับ 1,572.01 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กรกฎาคม)
มุมมองระยะสั้น:
KTC: SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q64 ของ KTC ที่ 1.56 พันล้าน เพิ่มขึ้น 35%YoY และลดลง 5%QoQ โดยกำไรที่เติบโต 35%YoY ได้รับการสนับสนุนจากการตั้งสำรองลดลงอย่างมากและรายได้หนี้สูญได้รับคืนที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรที่ลดลง 5%QoQ มีสาเหตุมาจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิด (แม้คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมจะค่อนข้างทรงตัว) และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงเล็กน้อย อันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ลดลงในช่วงที่มีการล็อกดาวน์เฉพาะจุด
MTC: SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q64 ของ MTC ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%YoY และเพิ่มขึ้น 2%QoQ โดยกำไรที่เติบโต 11%YoY ได้รับการสนับสนุนจากการคาดการณ์ถึงสินเชื่อที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งมากกว่า 20% โดยเกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ อันเป็นผลมาจากการจัดโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย 15% แม้ว่าจะถูกฉุดรั้งโดย NIM ที่ลดลง และการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น หากเทียบ QoQ กำไรจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว เพราะสินเชื่อที่เติบโตเร่งตัวขึ้นจะถูกหักล้างโดย NIM ที่ลดลง (จากการจัดโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย 15% สำหรับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์) และการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิด และรองรับการขยายสินเชื่อจำนวนมาก
SAWAD: SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q64 ของ SAWAD ที่ 1.21 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23%YoY และลดลง 11%QoQ โดยกำไรที่เติบโต 23%YoY สะท้อนถึงรายได้จากค่านายหน้าขายประกันที่สูงขึ้น OPEX ที่ลดลง และการเริ่มรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุนกับธนาคารออมสิน ในขณะที่กำไรที่ลดลง 11%QoQ หลักๆ เป็นเพราะไม่มีรายการพิเศษ (กำไร 220 ล้านบาทจากการขายหุ้น 49% ในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ให้กับธนาคารออมสิน เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน และการกลับรายการผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 174 ล้านบาท เหมือนใน 1Q64)
TIDLOR: SCBS คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q64 ของ TIDLOR ที่ 820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192%YoY และเพิ่มขึ้น5% QoQ ทั้งนี้เมื่อเทียบ YoY กำไรที่เติบโตสูงถึง 192% ได้รับการสนับสนุนส่วนใหญ่จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง (เพราะไม่มีการยกเว้นดอกเบี้ยค้างรับเพื่อลดภาระให้กับลูกค้าเหมือนในปีก่อน) และรายได้จากค่านายหน้าขายประกันที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หากเทียบ QoQ กำไรที่เพิ่มขึ้น 5% ได้รับการสนับสนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้จากค่านายหน้าขายประกันที่เพิ่มขึ้น
มุมมองระยะยาว:
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 2H64 ของกลุ่มไฟแนนซ์ลีสซิ่ง SCBS เห็นความเสี่ยงดาวน์ไซด์ต่อผลประกอบการ 2H64 จาก 1. แนวโน้มที่จะมีการปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และ 2. ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ อันเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ของโควิด
ทั้งนี้ SCBS มองว่า MTC จะได้รับผลกระทบจากการลดเพดานดอกเบี้ยและมาตรการล็อกดาวน์น้อยสุดในกลุ่มไฟแนนซ์ลีสซิ่งภายใต้การวิเคราะห์ของ SCBS เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนสินเชื่อในจังหวัดที่ถูกล็อกดาวน์ต่ำ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล