หลังจากมีข่าวลือออกมาว่า CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) สนใจที่จะเข้าซื้อกิจการของ บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF ซึ่งเป็นเจ้าของห้างดังย่านบางนาอย่าง ‘เมกาบางนา’
โดยนอกจาก CPN แล้ว THE STANDARD WEALTH ได้รายงานด้วยว่า AWC หรือ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ ‘เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี’ ซึ่งมี วัลลภา ไตรโสรัส ลูกสาวคนกลางรับหน้าที่เป็นซีอีโอ ก็สนใจที่จะเข้าซื้อ SF เช่นเดียวกัน
แต่ในที่สุดแล้ว SF ก็ตกเป็นของ CPN จนได้ โดย CPN ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงเย็นวันนี้ (5 กรกฎาคม) ว่า ได้ทำสัญญาเข้าซื้อหุ้นสามัญของ SF จาก บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SF
CPN จะเข้าซื้อหุ้นต่อจาก MAJOR ทั้งหมด 647,158,471 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 30.36 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ SF ในราคาซื้อขายหุ้นละ 12.00 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 7,765,901,652 บาท และจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บันทึกข้อตกลงซื้อขายหุ้นลงนามแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2564
CPN ยังได้แจ้งตลาดอีกว่า ภายหลังการเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นเสร็จสิ้น CPN ทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ SF ในราคาเดียวกันกับราคาซื้อขายตามสัญญาซื้อขายหุ้นที่ราคาหุ้นละ 12.00 บาท ภายในวงเงินประมาณ 17,817 ล้านบาท ทำให้การเข้าฮุบ SF ในครั้งนี้ CPN ใช้เงินไปรวมกันราว 25,583 ล้านบาทด้วยกัน
ขณะเดียวกัน CPN ระบุว่าภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อ ได้อยู่ระหว่างศึกษาซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเพิกถอน SF ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หากมีความชัดเจนแล้วจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
โดย CPN คาดว่า การเข้าซื้อ SF นั้นจะเป็นประโยชน์ 2 เรื่อง คือ
- เป็นการส่งเสริมศักยภาพทางการเงินและเพิ่มฐานกระแสเงินสดให้แก่บริษัทฯ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
- ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงการเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อช่วยให้อัตราการเติบโตทางธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPN ได้เล็งเห็นศักยภาพในธุรกิจของ SF ซึ่งจะช่วยขยายพอร์ตโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับ Super Regional Mall ของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล เวสต์เกต และเมกาบางนา
นอกจากนี้ยังสามารถเติมเต็มพอร์ตคอมมูนิตี้ มอลล์ และที่ดินรอการพัฒนา ในทำเลศักยภาพสูงทั้ง CBD ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดต่างๆ ให้กับ CPN ได้อีกด้วย
“เมื่อพิจารณาโครงสร้างเงินทุนของบริษัทที่แข็งแกร่ง สามารถบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและอยู่ในกรอบนโยบายสัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Net D/E ที่ต่ำกว่า 1 เท่า ภายหลังจากการลงทุนครั้งนี้ได้ โดยเซ็นทรัลพัฒนายังเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูสต่อไป และศึกษาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้เป้าหมายองค์กรในการมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน” ปรีชากล่าว
สำหรับ CPN เป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 18 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง และโครงการที่พักอาศัยอีก 18 โครงการ
ขณะที่ SF ประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการศูนย์การค้า โดยมีโครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมดจำนวน 18 โครงการ ประกอบด้วย ศูนย์การค้าชุมชน ศูนย์ไลฟ์สไตล์ ศูนย์รวมสินค้าเฉพาะอย่าง ร้านค้าปลีก ศูนย์บันเทิง และการลงทุนในโครงการเมกาบางนา ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในกรุงเทพและปริมณฑล ด้วยพื้นที่เช่าเพื่อการค้าปลีกรวมกันกว่า 4 แสนตารางเมตร
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ SF ล่าสุด ปิดที่ 11.6 บาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากวันก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาหุ้น SF ปรับขึ้นมาแล้ว 132% จากปีก่อน ส่วนราคาหุ้น CPN ทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 51.75 บาท ขณะที่ราคาหุ้น MAJOR ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 1% จากวันก่อนหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘เซ็นทรัล’ ฮุบ ‘เมกาบางนา’ หลัง CPN ตกลงเข้าซื้อหุ้น SF ในสัดส่วน 30%
- ไม่ได้มีแค่ CPN แต่ AWC ของ ‘เจ้าสัวเจริญ’ ก็สนใจซื้อ SF เช่นกัน จับตา ‘รังสิต’ ทำเลทองต่อยอดอาณาจักรค้าปลีก
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น
