จากที่เคยมีมากถึง 5 สาขา แต่ด้วยกำลังซื้อที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนทำให้ต้องปิด 3 สาขา และการเกิดขึ้นของวิกฤตโควิด ทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาต้องปิดอีก 1 สาขา มาวันนี้ ‘SD BBQ หมูกระทะ’ ที่เปิดมานานถึง 20 ปี คงเหลือเพียงสาขาเดียวที่สุขุมวิท 71 ซึ่งเป็นสาขาดั้งเดิม
“เราเปิดร้านทีทำเป็นร้านใหญ่ 100 กว่าโต๊ะ ซึ่งมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง เมื่อรายได้ไม่ครอบคลุมเราจึงต้องปิดตัวไป โดยเฉพาะร้านที่อยู่รอบเมืองอย่างบางแคและรัตนาธิเบศร์” พิชัย เชื้อชาญวงศ์ เจ้าของร้าน SD BBQ หมูกระทะ กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH “การระบาดรอบแรกเรายังประคองตัว รอบ 2 ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ รอบที่ 3 แทบจะต้องกู้เพื่อทำให้ร้านอยู่ต่อไป”
ไม่ใช่ว่าไม่ปรับตัวตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่พิชัยบอกว่า การขายหมูกระทะใช่ว่าจะปรับตัวขายผ่านเดลิเวอรีได้ทันที เพราะที่ร้านเป็นแบบบุฟเฟต์ หัวใจจึงอยู่ที่การมากินที่ร้าน ยิ่งร้านของตัวเองนั้นอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ก็เป็นการยากที่ลูกค้าจะสั่ง ด้วยวันนี้มีตัวเลือกเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นร้านห้องแถวหรือตลาดนัดที่ใกล้บ้านมากกว่า
“รอบก่อนๆ เรามียอดขายจากช่องทางออนไลน์ประมาณ 5% เมื่อเทียบกับยอดขายปกติ ด้วยตัวเลขเท่านี้ไม่มีทางที่จะครอบคลุมต้นทุนได้เลย”
เมื่อถูกถามว่าคิดเห็นอย่างไรต่อคำสั่งของรัฐที่ห้ามกินในร้านจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พิชัยกล่าวว่า “รัฐบาลนึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่มีการวางแผนให้ร้านได้ปรับตัวเลย นึกจะเปิดก็เปิด นึกจะปิดก็ปิด เมื่อ 5 วันก่อนเพิ่งขยายจาก 21.00 น. เป็น 23.00 น. ลูกค้ากำลังเข้าร้าน แต่ตอนนี้จู่ๆ มาสั่งปิดร้านเราเฉยเลย”
พิชัยระบุว่า ด้วยความที่ร้านเปิด 16.00-01.00 น. ทำให้สามารถรับลูกค้าได้ 2 รอบ โดยรอบแรกเป็นลูกค้าทั่วไปที่จะกินถึงประมาณ 22.00 น. หลังจากนั้นเป็นรอบดึกจากพนักงานที่เพิ่งเลิกทำโอที รวมไปถึงพนักงานในห้างที่เพิ่งเลิกงาน
“ตอนให้ขายถึง 21.00 น. เรามียอดขายเหลือประมาณ 20-30% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด ช่วงนี้ยังพอไปได้แม้ไม่มีกำไร พอขยับมา 23.00 น. ยอดขายเพิ่มขึ้นมา 40-50% มีกำไรอยู่บ้าง แต่พอต้องปิดร้านเราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่มีกำลังใจที่จะสู้ต่อ
“อย่างการประกาศปิดล่วงหน้าเพียง 1 วัน ทำให้เราต้องรีบเคลียร์วัตถุดิบโดยเปิดขายที่หน้าร้านซึ่งยอดลดราคา 50% อย่างกุ้งซื้อมา 180 บาท ก็ยอมขาย 100 บาทต่อกิโลกรัม แม้ขาดทุนแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เน่าเสียและทิ้งไปเฉยๆ”
เจ้าของร้าน SD หมูกระทะ กล่าวต่อว่า กำลังประเมินอยู่ว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ อาจจะต้องปิดร้านที่เหลืออยู่ เพราะไม่รู้จะสู้ไปเพื่ออะไร เหนื่อยมาจะ 2 ปีแล้ว เราอดทนจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว แต่ที่ยังเปิดอยู่เพราะสงสารลูกน้อง 30 คนที่อยู่ในร้าน หากร้านไม่เปิดจะไปหางานที่ไหน ยิ่งช่วงนี้งานเป็นสิ่งที่หาอยากอยู่ โดยที่ผ่านมาร้านต้องตกลงกับลูกน้องว่าขอลดค่าแรง ในช่วงที่เปิด 21.00 น. ก็ขอจ่าย 70% ส่วนช่วงที่ปิดชั่วคราวก็ขอจ่าย 30-40% จากค่าแรงปกติ
สำหรับการที่รัฐเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือนั้น พิชัยก็มองว่า “อย่างน้อยรัฐก็ช่วยเหลือ ดีกว่าปล่อยให้ร้านสู้อยู่คนเดียว แม้ว่าความช่วยเหลือนั้นจะไม่เพียงพอก็ตาม”
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
