“อภิสิทธิ์ชนเป็นคนมีปัญหา เขาไม่ยึดถือกติกา เขามาทีหลังแต่ได้ก่อน”
หนึ่งในนิยามของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยมองเห็นคนเท่ากันจากวง Cocktail ที่ตั้งคำถาม ชวนหาคำตอบว่าคนกลุ่มนี้คือใคร มีประโยชน์อันใดกับสังคม ผ่านผลงานล่าสุด อภิสิทธิ์ชน เพลงร็อกที่ไม่มีคำว่ารัก แต่ฟังแล้วสิ้นหวัง อกหัก เจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจ
โดยเฉพาะเมื่อรวมกับมิวสิกวิดีโอที่เล่าเรื่องผ่านพนักงานดูดส้วม ที่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่ารวมตัวรับจ้างกำจัดสิ่งปฏิกูลให้กับผู้คน
ถึงแม้เปิดฉากด้วยภาพต้นไม้แห้งเฉา แต่ทุกคนเริ่มต้นทำงานด้วยรอยยิ้ม จนเวลา ‘7 ปีผ่านไป’ เหมือนมีใครมา ‘ยึด’ ความฝัน และเราก็แทบไม่ได้เห็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขาอีกเลย
ภาพตัดมาอีกครั้งตอนที่พวกเขา (และอีกหลายคน) เข้าคิวต่อแถวทำธุรกรรมอยู่หน้าธนาคาร แล้วมีผู้ชายสวมถุงเท้าสีแดงเดินผ่านทุกคนในแถว หยิบรองเท้าส้นสูงสีแดงที่วางอยู่บนบันไดขั้นแรกเดินเข้าไปในธนาคารโดยไม่ต้องต่อคิว
สามีภรรยาคู่นี้คือตัวแทน ‘อภิสิทธิ์ชน’ ที่ตัวเพลงตั้งคำถาม และคอยตามวนเวียนใช้สิทธิพิเศษแซงคิวทุกคนในทุกช่วง ทุกสถานที่ ทุกกิจกรรมของชีวิต ตั้งแต่ต่อแถวฉีดวัคซีน, ถวายอาหารพระ, เข้าห้องน้ำ (คนพิการ) และจ่ายค่าเทอม
“อภิสิทธิ์ชนเป็นคนไม่ตั้งแถว เขาไม่ต้องยืนให้ตรงแนว อะไรๆ ต้องได้ก่อน”
ไม่ใช่แค่แซงคิว แต่ทุกๆ ครั้งที่แซงคิวสำเร็จ อภิสิทธิ์ชนทั้งคู่จะหันมามอง เหยียดยิ้ม แค่นหัวเราะด้วยท่าทางภูมิใจ ด้อยค่าคนที่ต่อแถวอยู่ข้างหลัง แบ่งแยกชนชั้นกันอย่างชัดเจน
จนมาถึงฉากงานบุญบั้งไฟ ที่เป็นเพียงแค่ไม่กี่ช่วงเวลาที่พวกเขาและชาวบ้านได้ร้องรำทำเพลงอย่างมีความสุข และก็เป็นอีกครั้งที่อภิสิทธิ์ชนบนรถคันที่ตามมาทีหลัง บีบแตรขับรถเบียดแซงขบวนชาวบ้านอย่างไม่ใยดี
และเมื่อแม้กระทั่งความสุขเล็กๆ เพียงไม่กี่อย่างยังถูก ‘ยึด’ ชาวบ้านก็ไม่ทนอีกต่อไป ทุกคนวิ่งไปที่รถคันหรู เปิดประตูกระชากอภิสิทธิ์ชนลงบนพื้น ทำร้ายร่างกายกระชากทรัพย์สินยื้อแย่งไปเป็นของตัวเอง เพื่อแก้แค้นความรู้สึกที่พวกเขาถูกกดทับมาตลอด
รวมทั้งทีมงาน ‘ปลดหนี้เพราะขี้คุณ’ ที่ทั้งกระชากถุงเท้าสีแดง รองเท้าหนัง สร้อยคอทองคำ นาฬิกาหรู กระเป๋าเงิน แล้วมานั่งกิน ‘โต๊ะจีน’ แทนอภิสิทธิ์ชนคนเก่าที่เคยนั่งที่เดียวกันนี้มาก่อน
อย่างที่บอกว่าเพลงนี้คือเพลงอกหักที่เจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจ เพราะไม่ใช่แค่ตัวละครชาวบ้านที่ต้องอยู่กับการถูกกดขี่มาตลอด คนดูก็ต้องเจ็บปวดเมื่อตัวละครที่ควรเป็นที่รักเปลี่ยนร่างกลายเป็น ‘อภิสิทธิ์ชน’ ที่พวกเราเคยรังเกียจและโกรธแค้นมาตลอด
และจะยิ่งอกหักมากกว่านั้น ถ้าคิดถึงเวลา ‘7 ปี’ ในมิวสิกวิดีโอ ที่ ‘บังเอิญ’ ตรงกับเวลาในโลกแห่งความจริง ที่มี ‘อภิสิทธิ์ชน’ กลุ่มหนึ่งไม่ยึดถือกติกา อ้างตัวว่าจะเข้ามาแก้ปัญหา แต่ดันกดปุ่มหยุดเวลา หยุดการพัฒนาที่ควรเดินไปข้างหน้าเอาไว้
เป็น 7 ปี ที่ผู้คนควรได้มีความฝัน
เป็น 7 ปี ที่ควรจะมีสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์เกิดขึ้นได้มากมาย
ไม่ใช่เป็น 7 ปี ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด สูญเสีย และไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง อภิสิทธิ์ชน ของ Cocktail ได้ที่