เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขึ้นตอบคำถามไขข้อสงสัยต่อสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (22 มิถุนายน) ที่ผ่านมา โดยประเด็นที่อยู่ในความสนใจและหลายฝ่ายให้ความสำคัญมากที่สุดก็คืออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 5% ในเดือนพฤษภาคม เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 13 ปี
โดยประธาน Fed ใช้โอกาสนี้ยืนกรานและยืนยันอย่างหนักแน่นว่า อัตราเงินเฟ้อสูงที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากปัญหาคอขวดในห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) ที่โรงงานอุตสาหกรรมทั้งหลายยังมีปัญหาในเรื่องการจัดส่งวัตถุดิบเพราะโควิด-19 ขณะที่ปริมาณความต้องการบริโภคในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ ราคาสินค้าและบริการจึงปรับตัวแพงขึ้น
ขณะเดียวกันพาวเวลล์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับราคาสินค้าและบริการเมื่อปีที่แล้วที่มีการลดลงอย่างรุนแรง ทำให้การขยับเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจึงดูสูงกว่าปกติ
อย่างไรก็ตามประธาน Fed ยอมรับว่า ผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อสูงน่าจะมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า และอาจจะรั้งอยู่นานกว่าที่ประเมินไว้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจค่อยๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติ อัตราเงินเฟ้อก็จะขยับลงมาอยู่ในระดับเป้าหมายที่ Fed ตั้งใจไว้ โดยพาวเวลล์ไม่ได้ชี้เฉพาะเจาะจงว่าหมายถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจตัวใด
ความเห็นของพาวเวลล์ในครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความพยายามของตลาดการเงินที่พยายามตีความท่าทีของ Fed หลังการประชุมคณะกรรมกำกับนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2023 เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าเมื่อการประชุมเดือนมีนาคม
ด้านความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ (22 มิถุนายน) ปิดตลาดปรับตัวในแดนบวก เหตุนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลที่ Fed จะปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นผลจากนักลงทุนที่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อนโยบายของ Fed มากเกินไป
โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 68.61 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 33,945.58 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 21.65 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 4,246.44 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 111.79 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 14,253.27 จุด
แรงหนุนของตลาดเมื่อวานนี้มาจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหลัก นำโดยหุ้น Netflix ที่เพิ่มขึ้น 2.3% ขณะที่หุ้น Amazon, Apple และ Microsoft ขยับขึ้นอย่างน้อย 1% ส่วน Facebook เพิ่มขึ้น 2% เช่นเดียวกันกับ Alphabet บริษัทแม่ Google ก็ขยับขึ้นเช่นกัน
ด้านราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 73.06 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนต์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 74.81 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยนักลงทุนต่างรอผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
ส่วนราคาทองคำปรับลดลงเล็กน้อย และปรับลดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วัน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 5.50 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,777.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/inflation-health-coronavirus-pandemic-business-6e7c813472a3eb706e0cdafe305c1477
- https://www.cnbc.com/2021/06/21/stock-market-futures-open-to-close-news.html
- https://apnews.com/article/financial-markets-asia-health-coronavirus-pandemic-business-5ee864047dc409eeede5689b1b0becfe
- https://apnews.com/article/financial-markets-business-7e5bec91571e558f1580f3bdf676f001