วันนี้ (22 มิถุนายน) สหรัฐอเมริกายังคงเผชิญภัยคุกคามจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ที่ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุด แม้ทำเนียบขาวเผยว่า สหรัฐฯ ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่า 300 ล้านโดส ใน 150 วันแรกที่ โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า ราวร้อยละ 45.1 ของประชากรสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว ขณะที่ร้อยละ 53.3 ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส เมื่อนับถึงวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ทว่าบางรัฐ เช่น แอละแบมา, อาร์คันซอ, ลุยเซียนา, มิสซิสซิปปี, เทนเนสซี และไวโอมิง มีผู้รับวัคซีนครบโดสน้อยกว่าร้อยละ 35 ของผู้อาศัยทั้งหมด
สกอตต์ กอตเลียบ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) เผยว่า เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วกว่าเดิมและก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ระดับการติดเชื้อจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอัตราการฉีดวัคซีนในแต่ละพื้นที่
กอตเลียบให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CBS ว่า แบบจำลองการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาบ่งชี้ว่า ช่วงฤดูใบไม้ร่วงอาจพบการติดเชื้อแตะระดับสูงสุดราวร้อยละ 20 ของระดับเมื่อเดือนมกราคม แต่การแพร่กระจายของเชื้อจะไม่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ
“ตัวอย่างเช่นรัฐคอนเนตทิคัตที่ผมอาศัยอยู่ไม่พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่รัฐมิสซิสซิปปี, แอละแบมา, อาร์คันซอ, มิสซูรี พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล นั่นขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนของประชากร” กอตเลียบกล่าว
CDC ระบุว่า สายพันธุ์เดลตาซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน และตรวจพบครั้งแรกในสหรัฐฯ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แพร่ระบาดไปยังมากกว่า 40 รัฐของประเทศแล้ว
สำนักข่าว CNN รายงานผลการวิจัยฉบับใหม่ชี้ว่า พื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยคณะนักวิทยาศาสตร์จากเฮลิกซ์ (Helix) ได้วิเคราะห์ตัวอย่างโรคโควิด-19 ที่รวบรวมตั้งแต่เดือนเมษายน จำนวนเกือบ 20,000 รายการ และพบสายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเทศมณฑลที่ผู้อาศัยได้รับวัคซีนน้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ
คณะผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า วัคซีนถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย โดยการศึกษาชี้ว่า วัคซีนที่ผ่านการอนุมัติใช้งานในปัจจุบันมีฤทธิ์ป้องกันโรคโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
จางจั้วเฟิง ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา และรองคณบดีฝ่ายวิจัยของคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า งานวิจัยเกี่ยวกับระยะเวลาออกฤทธิ์ป้องกันของวัคซีนโรคโควิด-19 และเวลาที่จำเป็นต้องใช้วัคซีนกระตุ้น ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
จางเรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เนื่องจากวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งหมด
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว