วานนี้ (13 มิถุนายน) เจ้าหน้าที่อินเดียเปิดเผยว่า รัฐบาลอินเดียเตรียมใช้อากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) หรือโดรน จัดส่งยาและวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในเขตภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย
HLL Infra Tech Services บริษัทในเครือ HLL Lifecare ของรัฐบาลอินเดีย ซึ่งมีหน้าที่สำรองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศให้รัฐบาล ประกาศเชิญชวนหน่วยงานต่างๆ ร่วมยื่นเอกสารแสดงความสนใจจัดส่งเวชภัณฑ์ (วัคซีน/ยา) ผ่านโดรน ณ สถานที่ที่กำหนดในอินเดีย ในนามของสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR)
ประกาศดังกล่าวเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยหน่วยงานที่สนใจสามารถยื่นแสดงความประสงค์ได้จนถึงวันที่ 22 มิถุนายนนี้
รายงานระบุว่า Flipkart บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของอินเดีย ร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐเตลังคานาทางตอนใต้ เป็นผู้นำการพัฒนาและดูแลการใช้โดรนจัดส่งเวชภัณฑ์ไปยังพื้นที่ห่างไกลภายใต้โครงการ ‘ยาจากฟากฟ้า’ (Medicines from the Sky) โดยคาดการณ์ว่าจะมีการดำเนินโครงการนำร่องนานกว่า 6 วัน เพื่อทดสอบการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลายพันโดสในไฮเดอราบัด เมืองหลวงของรัฐเตลังคานา โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพทั้งหมด
ด้าน ICMR ได้เสาะหาโดรนที่สามารถเดินทางไกลสูงสุด 35 กิโลเมตรขณะบรรทุกเวชภัณฑ์ และบินที่ระดับความสูงอย่างน้อย 100 เมตร
ข้อกำหนดของรัฐบาลกลางระบุว่า โดรนควรบินขึ้นในแนวตั้ง รองรับน้ำหนักขั้นต่ำ 4 กิโลกรัม และสามารถเดินทางกลับจุดตั้งต้นหรือสถานีบัญชาการหลังจัดส่งเวชภัณฑ์แล้ว โดยการบินขึ้นและลงจอดจะเป็นไปตามแนวปฏิบัติของกรมการบินพลเรือนอินเดีย (DGCA) พร้อมวัคซีนอย่างปลอดภัย
เจ้าหน้าที่อาวุโสอินเดียกล่าวว่า การจัดสรรวัคซีนไปยังเขตภูเขาและพื้นที่ห่างไกลอาจเป็นเรื่องท้าทาย ท่ามกลางการกระจายวัคซีนสู่ทั่วพื้นที่ชนบท
ทั้งนี้ปัจจุบันอินเดียอยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนระยะที่ 3 ภายในประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุขกลางเผยว่าได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากกว่า 253 ล้านโดสแล้ว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว