จำได้ไหมว่าเมื่อสองเดือนที่แล้วในตอนที่ Apple จัดงาน Apple Event เปิดตัวนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก นอกเหนือจาก iPad Pro ชิป M1 และ iMac 7 สีที่ขโมยหัวใจแฟนๆ ผลิตภัณฑ์ Apple ได้อย่างอยู่หมัดแล้ว (แม้สีจริงบางรุ่นจะไม่ตรงกับสีในภาพโปรโมตก็ตาม) อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขโมยสปอตไลต์ทุกดวงย่อมหนีไม่พ้น ‘AirTag’ อุปกรณ์ติดตามสิ่งของต่างๆ เพื่อป้องกันกรณีของหาย
ล่าสุด Apple ประเทศไทยได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ในวันนี้ (4 มิถุนายน) พวกเขาจะเริ่มวางจำหน่าย AirTag อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย โดยสนนราคาจำหน่าย 1 ชิ้นในราคา 990 บาท และ 4 ชิ้นในราคา 3,390 บาท ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Apple Store, หน้าเว็บไซด์ออนไลน์ และแอปพลิเคชัน Apple Store
จุดขายของ AirTag คือการที่มันสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็น ‘อุปกรณ์ติดตามตำแหน่งสิ่งของ’ ที่เราต้องการจะติดตามมันได้อย่างแม่นยำ เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ออฟไลน์ซึ่งเดิมทีไม่สามารถ Tracking ติดตามพิกัดที่ตั้งหรือที่อยู่ของมันให้สามารถระบุตำแหน่งที่มันอยู่ได้ชัดเจนผ่านแอปพลิเคชัน Find My
ในเชิงการทำงาน AirTag จะทำงานร่วมกับ Bluetooth, Gyroscope, ชิป U1 และฟีเจอร์ Precision Finding เพื่อช่วยให้สามารถค้นหาไอเท็มต่างๆ ที่เราต้องการจะหาตำแหน่งของมันได้อย่างแม่นยำ แถมในกรณีที่ตัวอุปกรณ์อยู่ในระยะของสัญญาณ Bluetooth แต่เจ้าของตามหา AirTag ไม่เจอจริงๆ (สมมติว่าอยู่ในบ้านหรืออาคารที่พิกัดไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งที่แน่ชัด) เราก็ยังสั่งการให้ตัว AirTag ส่งเสียงออกมาเพื่อให้ตามหามันได้ง่ายขึ้น
ส่วนในกรณีที่ AirTag อยู่นอกเหนือจากระยะของ Bluetooth และยากต่อการติดตาม ตัวระบบของ AirTag จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple หลายพันล้านดีไวซ์ที่อยู่ในระบบของ Find My แล้วตรวจจับสัญญาณ Bluetooth จากนั้นจึงส่งต่อตำแหน่งที่ตั้งของมันกลับมายังอุปกรณ์ต้นทางของเรา โดยไม่มีการระบุตัวตน และยังให้ความสำคัญกับประเด็นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเองได้ที่ https://www.apple.com/th/shop/accessories/all/airtag ซึ่งตอนนี้ Apple เปิดให้คนที่สั่งซื้อสามารถสลักข้อความได้ฟรี แถมยังมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ขายพร้อมๆ กัน เช่น สายคล้อง AirTag หรือพวงกุญแจ แท็กห้อยกระเป๋าของ Hermès ให้เลือกได้ตามต้องการอีกด้วย
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล