แคนาดาอนุญาตให้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกและโดสสองต่างชนิดกันได้

วานนี้ (1 มิถุนายน) คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านภูมิคุ้มกันแห่งชาติแคนาดา (National Advisory Committee on Immunization: NACI) อนุญาตให้พลเมืองสามารถเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกและโดสสองต่างชนิดกันได้แล้ว แต่ยังจำกัดอยู่แค่เพียงวัคซีน 3 ชนิดเท่านั้นคือ วัคซีนจาก Pfizer, Moderna และ AstraZeneca

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าของวัคซีน รวมถึงความกังวลใจเกี่ยวกับกรณีการเกิดลิ่มเลือด ภายหลังการฉีดวัคซีนจาก AstraZeneca จนเป็นเหตุให้ทางการท้องถิ่นหลายพื้นที่สั่งระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้ว

โดย NACI ระบุว่า พลเมืองที่เข้ารับวัคซีนโดสแรกจาก AstraZeneca ยังคงสามารถเข้ารับโดสที่สองจาก AstraZeneca ได้อยู่ หรืออาจจะเข้ารับวัคซีนโดสที่สองจาก Pfizer หรือ Moderna ที่เป็นวัคซีนต่างชนิดกันได้อย่างปลอดภัย หรือหากวัคซีนโดสแรกที่ได้รับเป็นวัคซีนจาก Pfizer หรือ Moderna ก็สามารถเข้ารับวัคซีนโดสที่สองจากแบรนด์ใดก็ได้ใน 2 แบรนด์นี้ เนื่องจากเป็นวัคซีนชนิด mRNA เช่นเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตาม NACI ยังอยากแนะให้พลเมืองเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 ชนิดเดียวกันทั้งสองโดส โดยเข้ารับวัคซีนต่างชนิดกันได้ในสถานการณ์ที่จำเป็น อาทิ วัคซีนชนิดเดียวกับโดสแรกไม่สามารถหาได้หรือมีเหตุขัดข้องในช่วงเวลานั้น

คำแนะนำดังกล่าวอ้างอิงการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการใช้วัคซีนผสมหรือวัคซีนต่างชนิดกันในสเปนและสหราชอาณาจักร ที่พบว่า การใช้วัคซีนจาก AstraZeneca และจาก Pfizer เพื่อให้ครบโดสนั้นปลอดภัยและสามารถต้านโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนชนิดไหนก่อนก็ตาม แต่มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดผลข้างเคียงบ่อยขึ้น เมื่อเทียบกับการเข้ารับวัคซีนชนิดเดียวกันทั้งสองโดส หลังเข้ารับวัคซีนโดสที่สองแล้ว

แคนาดาไม่ได้เป็นเพียงประเทศเดียวที่กำลังศึกษาความเป็นไปได้ของการใช้วัคซีนผสมหรือวัคซีนโดสแรกและโดสสองต่างชนิดกัน ยังมีทางการจีนที่เริ่มต้นศึกษาเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึงฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, นอร์เวย์, รัสเซีย, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สหราชอาณาจักร รวมถึงสหรัฐอเมริกา