หลังมีเหตุการณ์ฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลา 12 เดือนเมื่อต้นปี 2021 และทำให้ The Vessel หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของมหานครนิวยอร์กจำต้องปิดให้บริการลงนานถึง 4 เดือน ล่าสุด สถาปัตยกรรมบันไดวนกลับมาเปิดให้บริการแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น (29 พฤษภาคม) โดยไม่มีการเพิ่มความสูงของรั้วในแต่ละชั้นเพื่อป้องกันการกระโดด
The New York Times รายงานว่า กลุ่มผู้พัฒนาของ Hudson Yards ตัดสินใจไม่เพิ่มความสูงรั้วตามแนวบันไดวนทั้ง 154 จุด และ 80 จุดพัก แต่กลับเพิ่มมาตรการความปลอดภัยด้านอื่นแทน โดยมาตรการดังกล่าวประกอบไปด้วย การเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดและระดับปฏิบัติการเป็นสามเท่า ซึ่งผ่านการฝึกเพื่อจับตาสัญญาณการฆ่าตัวตายและช่วยชีวิตโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังเปลี่ยนกฎการเข้าชม จากเดิมที่เข้าชมฟรี เป็นผู้เข้าชมต้องเสียค่าผ่านประตูเป็นจำนวน 10 ดอลลาร์ หรือราว 330 บาท เข้าชมเป็นคู่หรือหมู่คณะเท่านั้น ห้ามเข้าชมเพียงคนเดียวโดยเด็ดขาด ด้านหลังตั๋วแต่ละใบจะมีข้อความจากมูลนิธิ Born This Way Foundation ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ก่อตั้งโดย เลดี้ กาก้า ว่า ‘Each of you matter to us, and to so many others’ – (คุณแต่ละคนมีความสำคัญกับเราและคนอื่นๆ อีกมากมาย) และด้านหน้าประตูจะมีป้ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับ National Suicide Prevention Lifeline เครือข่ายด้านสุขภาพจิตที่ให้คำปรึกษาฉุกเฉินเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายได้
The Vessel อาคารบันไดวนสูง 150 ฟุต 16 ชั้น รูปทรงคล้ายรังผึ้งขนาดยักษ์ ส่วนหนึ่งของ Hudson Yards โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา ออกแบบโดย Thomas Heatherwick นักออกแบบชาวอังกฤษ ผู้ออกแบบอาคารมีชื่อมาแล้วหลายชิ้น เช่น The Hive ประเทศสิงคโปร์ หรือ UK Pavilion ที่งาน Expo 2010 ที่เซี่ยงไฮ้
ตั้งแต่เปิดให้เข้าชม ที่นี่มีคนฆ่าตัวตายถึง 3 ครั้งภายในระยะเวลาไม่ถึงปี และจำต้องปิดตัวลงชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดเมื่อกลางเดือนมกราคม 2021
อย่างไรก็ดี แม้จะมีมาตรการใหม่เพิ่มเข้ามา แต่หลายคนยังมองว่านี่ยังไม่เพียงพอต่อการระงับเขตการฆ่าตัวตายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
Lowell D. Kern ประธานคณะกรรมการชุมชน 4 ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว โดยเขากล่าวว่าหนทางเดียวที่แก้ปัญหานี้ได้คือยกระดับแผงกั้นให้สูงขึ้นเท่านั้น
“ผมเข้าใจว่า The Vessel ถูกมองว่าเป็นงานศิลปะและงานด้านสถาปัตยกรรม รวมถึงสุนทรียศาสตร์ แต่คุณกำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างสุนทรียภาพทางศิลปะกับการสูญเสียชีวิตโดยไม่มีทางเลือกที่นั่น”
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง: