บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ได้ต่อสัญญาหลักความร่วมมือการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการน้ำมันเครือข่ายของ OR กับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เพื่อดำเนินการร้านค้า 7-Eleven (ในประเทศไทย)
สำหรับการต่อสัญญญาครั้งนี้เป็นการต่อสัญญาจากสัญญาเดิมออกไปอีก 10 ปี
จากข้อมูลที่ OR ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อนหน้านี้พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 1/2564 OR มีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven และภายใต้แบรนด์จิฟฟี่จำนวนรวม 1,995 สาขา โดยเป็นการเปิดทั้งในประเทศไทยและลาว
สำหรับธุรกิจร้านสะดวกซื้อเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้กลุ่ม Non-Oil ซึ่งไตรมาสแรกที่ผ่านมามีรายได้รวม 4,086 ล้านบาท ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อันเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ระลอกใหม่ ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
ขณะที่ข้อมูลของ CPALL พบว่า ไตรมาส 1 ปี 2564 มีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ 7-Eleven สาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 155 สาขา ทำให้สิ้นไตรมาสมีร้านรวมทั้งสิ้น 12,587 สาขา ส่วนใหญ่ 85% เป็นร้านที่ตั้งเป็นเอกเทศ และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.
ในแง่ของรายได้นั้น 7-Eleven มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ รวม 70,450 ล้านบาท ลดลง 15.0% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวันเท่ากับ 65,024 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมลดลง 17.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 77 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 845 คน สรุปแล้วมีกำไรสุทธิ 947 ล้านบาท ลดลง 75.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ไม่ทำให้ผิดหวัง! OR รายงานกำไรสุทธิ 1Q64 กว่า 4,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- โควิด-19 ยิงหมัดฮุกใส่ 7-Eleven จนรายได้ 1Q64 ลดลง 15% ขณะที่กำไรเหลือเพียง 947 ล้านบาท หายไปกว่า 75.4%
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า