เกิดอะไรขึ้น:
วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่าบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของยอดขายเบี้ยประกันภัยปี 2464 ที่เติบโต 66% จาก 1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2563 สู่ระดับ 2.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2564
โดยแบ่งเป็นการเติบโตของบริษัทเองที่ 15% ซึ่งจะช่วยหนุนให้ยอดขายเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นสู่ 1.725 หมื่นล้านบาท และการเติบโตจากการซื้อและควบรวมกิจการที่ 52% ซึ่งจะช่วยหนุนให้ยอดขายเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นสู่ 2.5 หมื่นล้านบาท และ TQM คาดว่า บริษัท ที เจ เอ็น อินชัวร์รันส์โบรกเกอร์ จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อย) จะสร้างยอดขายเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัทได้จำนวน 500 ล้านบาทในปี 2564 โดยจะเพิ่มตัวแทนและดีลเลอร์อีก 1,000 ราย
นอกจากนี้ TQM คาดว่าจะทำการตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligence) สำหรับโครงการลงทุนเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 51% ในบริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด (นายหน้าประกันชีวิต) และบริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด (นายหน้าประกันวินาศภัย) แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม
โดยคาดว่าบริษัทสองแห่งนี้จะช่วยหนุนให้ยอดขายเบี้ยประกันภัยของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นได้อีกราว 1 พันล้านบาท นอกจากนี้ TQM ยังมีดีล M&A อีก 2 ดีลที่กำลังรอดำเนินการ
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (24 พฤษภาคม) ราคาหุ้น TQM ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.44%DoD สู่ระดับ 113.00 บาท เทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวลง 0.59 จุดหรือลดลง 0.04%DoD สู่ระดับ 1,551.85 จุด
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าแนวโน้มกำไร 2Q64 จะเติบโต 51%YoY และ 22%QoQ สู่ระดับ 246 ล้านบาท โดยได้ปัจจัยสนับสนุนหลักจากยอดขายประกันโควิด-19 ที่ได้รับกระแสตอบรับดีท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยที่รุนแรงขึ้น โดย TQM ตั้งเป้ายอดขายประกันโควิด-19 ในปี 2564 ที่ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านบาทในปี 2563 โดยใน 1Q64 ขายได้แล้ว 200 ล้านบาท และคาดว่าจะขายได้อีก 700 ล้านบาทใน 2Q64 และอีก 100 ล้านบาทใน 2H64
ทั้งนี้ ต้องติดตามการขยายธุรกิจสู่บริการสินเชื่อภายใต้ บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด ซึ่งจะให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อซื้อประกันภัย ด้วยวงเงินปล่อยกู้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย โดยคาดว่า บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด จะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2564
ในปัจจุบัน TQM แบกรับภาระต้นทุนแทนลูกค้าที่ซื้อประกันโดยใช้บัตรเครดิตที่อัตราดอกเบี้ย 0% ทำให้ TQM มีต้นทุนราว 100 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ดังนั้นการเปลี่ยนจากบัตรเครดิตมาใช้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อประกันจะช่วยให้ TQM ประหยัดต้นทุนราว 100 ล้านบาทต่อปี
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าอัตรากำไรสุทธิของ TQM จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 22.8% ในปี 2563 สู่ 25.8% ในปี 2564 และ 26.6% ในปี 2565 หลักๆ เกิดจากอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงอย่างต่อเนื่อง (ซึ่งเกิดจากการประหยัดต่อขนาดมากขึ้น) จาก 72.2% ในปี 2563 สู่ 68.3% ในปี 2564 และ 67.2% ในปี 2565 โดย SCBS คาดกำไรสุทธิปี 2564 ของ TQM ที่ 1.1 พันล้านบาท เติบโต 59%YoY และ 1.4 พันล้านบาท เติบโต 24%YoY ในปี 2565
ทั้งนี้ TQM ไม่ได้เพิ่มพนักงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทหันมาเน้นแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น หลังจากใช้เงินลงทุนด้านไอทีครั้งใหญ่ราว 300-400 ล้านบาท ในปี 2561-2562 แพลตฟอร์มในปัจจุบันสามารถสนับสนุนการทำยอดขายเบี้ยประกันภัยได้มากถึง 3.5 หมื่นล้านบาท (เทียบกับ 1.5 หมื่นล้านบาท ในปี 2563)
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล