บมจ.ราช กรุ๊ป หรือ RATCH ควักเงินลงทุน 1.55 พันล้านบาท เข้าถือหุ้นใน cสัดส่วน 10% โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนและซื้อจากผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท หวังขยายสู่ธุรกิจด้านสุขภาพ ซึ่งนับเป็นการแตกไลน์ธุรกิจจากพลังงานและสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นครั้งแรก ด้าน PRINC เตรียมนำเงินที่ได้ใช้ขยายกิจการโรงพยาบาล-ชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และยืนยันเป้าหมายธุรกิจปี 2565 มีเครือโรงพยาบาล 20 แห่งและคลินิก 100 แห่ง
กิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ RATCH เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC ในสัดส่วน 10% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดยแบ่งการลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PRINC จำนวน 346,233,682 หุ้น (คิดเป็นสัดส่วน 9.09% ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท และการซื้อหุ้นสามัญเดิมของ PRINC จาก สาธิตา วิทยากร จำนวน 34,623,369 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.91% ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,557.70 ล้านบาท
ทั้งนี้ RATCH มองเห็นโอกาสของธุรกิจเฮลท์แคร์ที่มีการเติบโตอีกมาก และเป็นธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะเป็นความต้องการพื้นฐานของภาคประชาชนโดยเฉพาะประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่ Aging Society อีกทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนสนใจและให้ความสำคัญกับการป้องกัน-ดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลเองก็มีนโยบายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ (Medical Hub)
“จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้น PRINC เบื้องต้นลงทุนเข้าถือหุ้น 10% ก่อนและอนาคตอาจะมีการเพิ่มสัดส่วน ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับทาง PRINC ด้วยว่าจะมีการเพิ่มทุนอีกหรือไม่ ส่วนความคาดหวังด้านผลตอบแทนนั้น มองการลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนระยะยาวมากกว่า”
นอกเหนือจากผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว RATCH จะสร้าง Synergy ร่วมกับ PRINC เพิ่มเติม เช่น การแบ่งปัน Knowhow รวมถึงนวัตกรรม และช่วยลดต้นทุนด้านไฟฟ้าและพลังงาน และในอนาคตอาจมีการตั้งศูนย์โรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์ในเครือ PRINC ในพื้นที่ของ RATCH
ด้านที่ประชุม บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 346,233,682 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ได้แก่ RATCH ในราคาหุ้นละ 4.09 บาท กำหนดระยะเวลาจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2564
สาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ PRINC กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะนำไปสู่การขยายโรงพยาบาลตามเป้าในปี 2565 รวม 20 แห่งจากปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่งใน 10 จังหวัด โดยจะเน้นเข้าร่วมทุนโรงพยาบาลขนาดกลางและเล็กที่มีอยู่เดิมแทนการสร้างใหม่ มองการขยายไปยังภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแผนขยายเครือข่ายปฐมภูมิที่เป็นคลินิกบัตรทอง จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ 13 แห่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 100 แห่งในปี 2565 ใช้เงินลงทุนราว 5,000-6,000 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะใช้สำหรับขยายธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งตามแผนการลงทุนของบริษัทภายในปี 2564 จะมีการขยายโรงพยาบาล ทั้งการปรับปรุงและขยายโรงพยาบาลแห่งเดิม รวมถึงการลงทุนในโรงพยาบาลแห่งใหม่ โดยวิธีการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลเดิม และ/หรือ การลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่ ซึ่งคิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท รวมทั้งอาจนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการและหรือชำระหนี้บางส่วนให้แก่สถาบันการเงิน
โดย PRINC คาดการณ์ว่าหากสามารถเพิ่มเครือข่ายโรงพยาบาลและคลินิกได้ตามแผนในปี 2565 ผลประกอบการก็น่าจะกลับเป็นบวกได้ โดยผลประกอบการล่าสุด งวดไตรมาส 1/2564 PRINC ขาดทุนสุทธิอยู่ 161 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า