เมื่อไทยมีระบบโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินอย่าง PromptPay ที่ช่วยให้การโอนเงินรายย่อยสะดวกและทันทีมากขึ้น จนตอนนี้ปริมาณการใช้งานต่อวันสูงถึง 22.3 ล้านรายการ และ PromptPay จะไม่ได้โอนเงินได้แค่ในประเทศไทยเท่านั้น
สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. และธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เปิดตัวการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินรายย่อยครั้งแรกของโลก ระหว่าง PromptPay ของไทย และ PayNow ของสิงคโปร์ ให้รายย่อยสามารถโอนเงินข้ามประเทศได้ทันที โดยใช้เวลาราว 1-2 นาที จากเดิมที่ใช้เวลา 1-2 วัน ในค่าธรรมเนียมที่ลดลง
ทั้งนี้ การเชื่อมระบบระหว่างไทยกับสิงคโปร์เริ่มต้นทำร่วมกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการทำระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ (Cross-Border Fund Transfer / Remittance) ถือเป็นบริการที่ซับซ้อน
หากจะต่อยอดบริการ/ธุรกรรมอื่นๆ หรือการเชื่อมโยงระบบนี้ในประเทศอื่นๆ ยังต้องดูทั้งปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งประเทศนั้นๆ ต้องมีระบบ Fast Payment System เหมือนไทย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ (สปป.ลาว อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องระบบ) รวมถึงความต้องการและเงื่อนไขของธนาคารพาณิชย์และส่วนที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศ
โดยในกรณีของไทยและสิงคโปร์ขณะนี้จะเริ่มต้นที่รูปแบบบุคคลต่อบุคคล จำกัดวงเงินโอนไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อวัน (โอนเข้าไทยไม่เกิน 25,000 บาทต่อวัน) ขณะนี้เปิดให้บริการ 6 วัน (29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2564) มียอดธุรกรรมรวม 11 ล้านบาท เฉลี่ย 3,700 บาทต่อรายการ โดยทาง ธปท. จะติดตามอย่างใกล้ชิดถึงโอกาสในการต่อยอด หรือขยายวงเงินเพิ่มขึ้น (โดยเริ่มต้นที่ 4 ธนาคารไทย และ 3 ธนาคารในสิงคโปร์)
ทั้งนี้ เดิมคาดว่าในช่วงสิ้นปี 2564 หากเห็นภาคธุรกิจสนใจการให้บริการนี้อาจจะขยายเพดานวงเงินให้ภาคธุรกิจสามารถทำธุรกรรมได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งเบื้องต้นหากเห็นจำนวนธุรกรรมสูงอาจจะมีการปรับเพดานวงเงินในช่วงไตรมาส 3/64
อย่างไรก็ตาม ระบบโครงสร้าง PromptPay ของไทย ยังให้บริการในรูปแบบอื่นๆ เช่น การสแกน QR Code ณ จุดบริการเพื่อจ่ายเงินในต่างประเทศ หรือ Cross-Border QR Payment ระหว่างไทยกับหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว และสิงคโปร์