สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างอิงแถลงการณ์จากบริษัท Johnson & Johnson ที่ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทจะกลับมาผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ป้อนสู่ตลาดยุโรปอีกครั้ง หลังจากที่โดนองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป หรือ European Medicines Agency (EMA) สั่งระงับใช้ชั่วคราว เพราะปัญหาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
รายงานระบุว่า เนื่องจากวัคซีนในขณะนี้มีความจำเป็นและเป็นที่ต้องการอย่างมาก อีกทั้งกรณีความเสี่ยงดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นในสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับประชากร ดังนั้นทางการสหภาพยุโรป (EU) จึงเพิกถอนคำสั่งห้ามใช้ออกไป
ทั้งนี้ทาง EMA ได้แนะนำให้ Johnson & Johnson จัดทำฉลากระบุคำเตือนถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับโอกาสในการเกิดภาวะลิ่มเลือดหลังได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งทาง Johnson & Johnson ได้น้อมรับคำแนะนำดังกล่าวมาปฏิบัติทันที โดยเปิดเผยว่าฉลากใหม่ของวัคซีนจะระบุความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน ตลอดจนระบุข้อมูลวิธีการสังเกตอาการและการรักษาไว้ด้วยเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการใช้วัคซีน
Johnson & Johnson กล่าวว่า ทางบริษัทจะเริ่มดำเนินการจัดส่งวัคซีนให้กับทางสหภาพยุโรป นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ต่อ รวมถึงกลับมาเริ่มการทดสอบทางคลินิกอีกครั้ง
ความเคลื่อนไหวข้างต้นส่งผลให้หุ้นในตลาดของ Johnson & Johnson ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศว่าจะเริ่มใช้วัคซีนของ Johnson & Johnson อีกครั้งในวันพุธนี้
สำหรับคำสั่งระงับการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของ Johnson & Johnson ในยุโรปมีขึ้นหลังจากที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) มีคำสั่งห้ามใช้ หลังเกิดลิ่มเลือดอุดตันในผู้หญิง 6 คนที่ได้รับวัคซีนจากจำนวนประชากรทั้งสิ้นเกือบ 8 ล้านคน
ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินการสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 เพราะวัคซีนของ Johnson & Johnson ดำเนินการขนย้ายได้ง่ายกว่า เนื่องจากสามารถเก็บรักษาได้ในอุณหภูมิตู้เย็นปกติ เมื่อเทียบกับวัคซีนของ Pfizer และ Moderna ที่ต้องใช้ความเย็นจัดในการเก็บรักษาวัคซีน
อ้างอิง: