บจ.เอเชีย แค็บ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และ บจ.ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี เพื่อพัฒนาโครงการ ‘เทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสำหรับ CABB แท็กซี่เพื่ออนาคต (CABB EV)’ ขณะเดียวกันยังได้ลงนามความร่วมมือ 2 ฝ่ายกับ บจ.ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เพื่อสนับสนุนด้านไอทีและเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของรถ
ศฤงคาร สุทัศน์ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจ.เอเชีย แค็บ กล่าวว่า ความร่วมมือเหล่านี้มีเป้าหมายร่วมกันพัฒนารถยนต์รับจ้างสาธารณะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะต้นแบบ (รถต้นแบบ) ภายใต้ชื่อ CABB EV ซึ่งกระบวนการพัฒนารถต้นแบบนี้มีสาระสำคัญ 5 ด้าน คือ
- การพัฒนาโครงสร้างรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบา โดยมีสมรรถนะและมาตรฐานด้านความปลอดภัยไม่ต่ำกว่าโครงสร้างเดิม
- การพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและระบบเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ของรถยนต์
- การพัฒนาแหล่งพลังงานหรือแบตเตอรี่ และระบบจัดการแบตเตอรี่
- การพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ที่สามารถผลิตหรือประกอบได้ภายในประเทศ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมของประเทศไทย
- การพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับรถต้นแบบ และการสนับสนุนธุรกิจของรถต้นแบบ
สำหรับบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่ายนั้น ทาง เอสซีจี เคมิคอลส์ จะให้การสนับสนุนบุคลากรและการวิจัยเพื่อพัฒนาโครงสร้างรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาและเหมาะสมกับระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทางด้าน บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ จะให้การสนับสนุนบุคลากรและการวิจัยพัฒนาเกี่ยวกับแหล่งพลังงานที่มาจากแบตเตอรี่ ระบบการจัดการแบตเตอรี่ และสถานีไฟฟ้าสำหรับพลังงานแก่รถยนต์ การวิจัยพัฒนาโซลูชันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และเทคโนโลยีที่สนับสนุนการทำงานของรถให้ได้ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม
สำหรับ บจ.ซัมมิท โอโต บอดี้ อินดัสตรี จะให้การสนับสนุนบุคลากร และการพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ที่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และเอเชีย แค็บ จะประสานงานทุกฝ่าย เพื่อให้ความร่วมมือบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถต้นแบบให้เกิดขึ้นในประเทศไทย และสร้างโอกาสในการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ที่ใช้รถยนต์แบบพวงมาลัยขวา
ส่วน บจ.ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกัน 2 ฝ่ายกับเอเชีย แค็บ จะให้การสนับสนุนบุคลากร โครงสร้างพื้นฐานทางไอทีและเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน และเทคโนโลยีทางด้านข้อมูล เพื่อเพิ่มโอกาสและความเป็นไปได้ทางธุรกิจ โดยพันธมิตรทุกฝ่ายจะให้การสนับสนุนการศึกษาความเป็นไปได้ทางการตลาดสำหรับรถยนต์ต้นแบบร่วมกับคู่สัญญาฝ่ายที่เหลือ
ศฤงคารกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน เอเชีย แค็บ เป็นผู้ผลิตและผู้ให้บริการ CABB รถแท็กซี่ที่มีต้นแบบจากลอนดอนแท็กซี่ ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการด้วยมาตรฐานใหม่ ปลอดภัย สะอาด สะดวกสบาย สบายใจ มีจุดให้บริการตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งแต่เปิดตัวเมื่อประมาณกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เอเชีย แค็บ เล็งเห็นว่าหากสามารถพัฒนารถแท็กซี่ไฟฟ้าเกิดเป็น CABB EV ได้ จะเป็นการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของประเทศไทยให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการร่วมมือกับ 4 พันธมิตรในครั้งนี้จะใช้ระยะเวลา 1 ปี หากการผลิตรถต้นแบบประสบความสำเร็จและคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจ ก็จะร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถต้นแบบในขั้นตอนถัดไป อาจจะอยู่ในรูปของการตกลงซื้อขาย การจ้างออกแบบจ้างผลิต ร่วมทุน หรือจะอยู่ในรูปของการพัฒนาธุรกิจรับจ้างสาธารณะในประเทศ หรือส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ เป็นต้น
“เราคาดว่า CABB EV จะผลิตสำเร็จ และสามารถออกมาให้บริการประชาชนได้ในปี 2565 นับเป็นรถแท็กซี่ไฟฟ้าสัญชาติไทยคันแรก ซึ่งจะช่วยยกระดับระบบขนส่งสาธารณะของไทยให้มีมาตรฐานมากขึ้น และเรายังคาดหวังว่าจะเห็น CABB EV เป็นแท็กซี่ที่เป็นไอคอนของประเทศไทยที่ผู้คนนึกถึง รวมทั้งตอบรับกับนโยบายของภาครัฐที่จะผลักดันให้ยานยนต์ไทยไร้มลพิษ เพื่อช่วยลดมลพิษในอากาศ และทำให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น” ศฤงคารกล่าว
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล