Geoffrey Okamoto รองกรรมการผู้จัดการอันดับหนึ่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุพบสัญญาณการฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลกที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการเติบโตอยู่ นั่นคือการกลายพันธุ์ของโควิด-19
นอกจากนี้ ตัวแทนหมายเลข 2 ของ IMF ยังเปิดเผยอีกว่า ทาง IMF มีแผนที่จะปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ จากตัวเลขเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่ง IMF ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะสามารถขยายตัวได้ 5.5% ในปีนี้
สำหรับการเตรียมปรับคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขบริบทแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือการเดินหน้าแจกจ่ายวัคซีนของแต่ละประเทศ
แผนการปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกมีขึ้นระหว่างที่ Okamoto เข้าร่วมเวทีประชุม China Development Forum ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากเรื่องคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกแล้ว รองกรรมการผู้จัดการ IMF ยังได้หยิบยกประเด็นที่น่าวิตกอย่างความต่างในการเติบโตของประเทศพัฒนาแล้ว กับประเทศกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีประชากรราว 90 ล้านคนตกอยู่ใต้เส้นภาวะยากจนพิเศษนับตั้งแต่โควิด-19 ระบาด
ในส่วนของชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกอย่างจีน Okamoto กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนได้ฟื้นตัวกลับมาเติบโตอยู่ในระดับเดียวกันกับก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ได้แล้ว เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ด้วยกัน แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตามองอย่างการลงทุนของภาคเอกชนที่ยังอ่อนแรงอยู่
สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงเป็นอีกปีที่มีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดได้ง่ายๆ ปัญหาการเข้าถึงวัคซีนที่ไม่ทั่วถึงเท่าเทียมกัน และปัญหาความเสี่ยงเรื่องภาวะยากจน โดยรายได้ต่อหัวของประชากรในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาระหว่างปี 2020-2022 ปรับตัวลดลงราว 22% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดทำให้ประชากรหลายล้านคนกลายเป็นคนยากจน
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: