วันนี้ (16 มีนาคม) ทางการลาวได้แนะนำให้สายการบินต่างชาติจัดหา ‘สายรัดข้อมืออัจฉริยะ’ ที่สามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางมายังลาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
โดยเมื่อวานนี้คณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของลาว ออกคำสั่งให้กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งแจ้งข้อกำหนดดังกล่าวกับบรรดาสายการบินต่างชาติ
ขณะที่หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทมส์ รายงานข่าวในวันนี้ว่าสายการบินต่างชาติจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้โดยสารทราบก่อนขึ้นเครื่องว่าพวกเขาอาจถูกปฏิเสธเข้าประเทศหากไม่สวมสายรัดข้อมืออัจฉริยะ
คณะกรรมการยังกำหนดให้ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้าลาวซื้อประกันภัยโรคโควิด-19 ผ่านทางกระทรวงสาธารณสุขลาวด้วย เนื่องจากขณะนี้ลาวบังคับให้ผู้เดินทางทุกคนยื่นประกันภัยโรคโควิด-19 นอกเหนือจากเอกสารและคำร้องการเดินทางอื่นๆ เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศ
สายรัดข้อมืออัจฉริยะจะช่วยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและบันทึกตำแหน่งที่อยู่ของผู้สวมใส่หลังเดินทางมาถึงลาว โดยมีเป้าหมายเพื่อตรวจจับความผิดปกติและกระตุ้นให้เกิดการรับมืออย่างทันท่วงทีในกรณีที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส
สายรัดข้อมือนี้ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้สวมใส่ หากตรวจพบความผิดปกติใดๆ สายรัดข้อมือจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งจะสามารถรับข้อมูลเหล่านี้ผ่านสมาร์ทโฟนของตนได้หลังเชื่อมต่อบลูทูธ อีกทั้งสามารถแบ่งปันข้อมูลไปยังเพื่อนของผู้สวมใส่ รวมถึงหน่วยงานประจำเขตและเทศบาลได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้เดินทางมาถึงลาวที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือโรคโควิด-19 จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการและเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจเพื่อส่งไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ ส่วนผู้เดินทางที่ไม่แสดงอาการใดๆ จำเป็นต้องเฝ้าระวังและตรวจวัดอุณหภูมิตนเองทุกวันเป็นเวลา 14 วัน
ทั้งนี้รายงานระบุว่าหน่วยงานท้องถิ่นยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเฝ้าระวังประชาชนตามจุดผ่านแดน ทางการลาวยังคงเฝ้าระวังและกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันลาวอนุญาตให้ประชาชนสามารถรวมตัวกันได้ภายใต้จำนวนจำกัด และทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน อาทิ การเว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว