สภาพอากาศหนาวจัดที่เข้าปกคลุมพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดไฟดับครั้งใหญ่ทั่วรัฐเท็กซัส ในขณะที่ความต้องการพลังงานเพื่อสร้างความอบอุ่นนั้นเพิ่มสูงขึ้น จนโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐไม่สามารถรองรับได้
การจ่ายไฟฟ้าและก๊าซเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ ไม่ต่อเนื่อง โดยทางการให้เหตุผลถึงความจำเป็นที่จะต้อง ‘จัดการความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้ได้อย่างปลอดภัย’ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ขึ้นอีก
เกิดอะไรขึ้น และสาเหตุที่ทำให้ไฟดับทั่วรัฐ
ก่อนหน้านี้ทางการเผยว่า อากาศที่เย็นยะเยือกเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาใหญ่ในภาคพลังงานของรัฐเท็กซัส เพราะน้ำแข็งเกาะกังหันลม ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สำคัญของรัฐ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของรัฐเท็กซัสลดลง เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหิน
อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ตลอดจนผู้ดำเนินรายการทางโทรทัศน์ ได้กล่าวโทษนโยบายพลังงานสีเขียวว่าเป็นตัวการทำให้ไฟดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กังหันลมที่เพิ่มขึ้น
“มันทำงานดีเยี่ยมมาตลอด จนกระทั่งวันที่อากาศข้างนอกหนาวเหน็บ” ทักเกอร์ คาร์ลสัน จาก Fox News กล่าว
“กังหันลมไม่ทำงานก็เหมือนเครื่องประดับแฟชั่นกระจอกๆ ขณะที่ผู้คนในเท็กซัสกลับต้องมาเสียชีวิต” เพราะอากาศที่หนาวเย็น
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า สาเหตุที่ไฟดับครั้งใหญ่ไม่ใช่เพราะกังหันมีน้ำแข็งเกาะเพียงอย่างเดียวตามที่หลายฝ่ายกล่าวโทษ เพราะก๊าซและพลังงานสิ้นเปลือง (Non-Renewable) อื่นๆ มีสัดส่วนที่ใหญ่กว่ามากในการผลิตไฟฟ้าป้อนพลเมืองในโครงข่ายไฟฟ้าเมื่อเทียบกับพลังงานลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว ดังนั้นการขาดแคลนทรัพยากรเหล่านี้จึงส่งผลกระทบต่อระบบมากยิ่งกว่า ซึ่งจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นยังทำให้มีน้ำแข็งเกาะอุปกรณ์ในบ่อก๊าซและท่อส่งก๊าซ ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ
นักวิจารณ์ชี้ว่า การที่กังหันลมไม่ทำงานเพราะมีน้ำแข็งเกาะนั้นทำให้เท็กซัสสูญเสียกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมไปเกือบครึ่ง แต่กลับมองข้ามประเด็นที่ว่าการสูญเสียกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซและทรัพยากรสิ้นเปลืองอื่นๆ เช่น ถ่านหินและนิวเคลียร์นั้นมีมากกว่าเป็น 2 เท่า
ดร.โจชัว โรดส์ จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสในเมืองออสติน ทวีตว่า “ไม่ควรโทษทรัพยากรใดเลยในเรื่องนี้
“โดยปกติแล้วไฟดับนานสุดราว 2-3 ชั่วโมง แต่ครั้งนี้กินเวลานานหลายวัน
“จริงอยู่ที่ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานลมต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่แหล่งอื่นๆ ก็เช่นกัน”
ที่ผ่านมาเท็กซัสส่งเสริมการพัฒนาพลังงานลมในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา และแม้แหล่งพลังงานหมุนเวียน ซึ่งส่วนใหญ่คือลม จะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของการจ่ายไฟฟ้าทั่วรัฐ แต่แท้จริงแล้วทรัพยากรพลังงานที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดคือเชื้อเพลิงฟอสซิล ขณะที่อีก 10% มาจากนิวเคลียร์
Electricity Reliability Council of Texas (Ercot) ซึ่งเป็นบริษัทการไฟฟ้ารายใหญ่ของรัฐเท็กซัส เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นจนเป็นน้ำแข็งส่งผลให้
– สูญกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งก๊าซ ถ่านหิน และนิวเคลียร์ มากถึง 30GW
– สูญกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ในปริมาณ 16GW
โดยบริษัทระบุว่า สถานการณ์ข้างต้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสามารถของบริษัทในการตอบสนองความต้องการไฟฟ้าสูงสุด (Peak Demand) ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาถึง 69GW ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และในแผนการดำเนินงานในกรณีที่เกิดสภาพอากาศหนาวรุนแรงนั้น Ercot คาดว่าจะสามารถให้บริการไฟฟ้าจากพลังงานจากลมได้เพียง 7% เท่านั้น
แดน วูดฟิน จาก Ercot กล่าวว่า “ดูเหมือนว่าสาเหตุหลักที่ประชาชนจำนวนมากไม่มีไฟฟ้าใช้ในวันนี้จะมาจากปัญหาในระบบก๊าซธรรมชาติ”
ไม่ใช่แค่ไฟ แต่น้ำยังไม่ไหลในหลายพื้นที่ด้วย
มีรายงานว่า ประชาชน 12 ล้านคนในรัฐเท็กซัสประสบปัญหาน้ำก๊อกในบ้านไม่ไหล หรือน้ำไหลไม่ต่อเนื่อง ขณะที่ทางการแนะนำให้ประชาชนที่อาศัยใน 100 เคาน์ตี ต้มน้ำไว้ดื่ม เนื่องจากโรงบำบัดไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นยังส่งผลกระทบต่อระบบน้ำที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของสถานีไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ South Texas Nuclear Power Station จนเป็นสาเหตุให้เตาปฏิกรณ์เครื่องหนึ่งไม่ทำงาน
เท็กซัสสามารถหาแหล่งพลังงานจากที่อื่นได้หรือไม่?
เท็กซัสเป็นรัฐเดียวในสหรัฐอเมริกาที่มีโครงข่ายไฟฟ้าอิสระ ซึ่งหมายความว่าโครงข่ายไฟฟ้าของเท็กซัสพึ่งพาทรัพยากรของตนเองเป็นส่วนใหญ่
ในเวลาปกติโครงข่ายไฟฟ้าทำงานได้ดี เนื่องจากเท็กซัสเป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ ทั้งฟอสซิลและพลังงานหมุนเวียน และนอกจากจัดหาให้เพียงพอกับประชากรแล้ว ยังสามารถส่งออกไปยังรัฐอื่นๆ ได้อีกด้วย
แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานทำงานหนักเกินไป เช่น ในช่วงที่อากาศหนาวจัด พื้นที่ส่วนใหญ่ของเท็กซัสไม่สามารถเชื่อมโยงกับโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐอื่นๆ เพื่อชดเชยการขาดแคลนภายในรัฐได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐเท็กซัสกำลังเรียกร้องให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าของรัฐในการรับมือกับเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง
ประชาชนเดือดร้อน ขาดเสบียงและปัจจัยยังชีพ
นอกจากการไม่มีไฟใช้เพื่อสร้างความอบอุ่นในช่วงที่อากาศหนาวจัดแล้ว ประชาชนยังขาดแคลนน้ำดื่ม และถึงแม้หลายพื้นที่จะมีไฟใช้แล้ว แต่ยังมีปัญหาที่ตามมาอีกก็คือการขาดแคลนเสบียงอื่นๆ ในการดำรงชีวิต
ที่เมืองซานอันโตนิโอ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของรัฐเท็กซัส เคลาเดีย เลมัส หนึ่งในชาวเมืองเล่าว่า บ้านของเธอกลับมามีไฟใช้แล้วก็จริง แต่ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตจำนวนมากมีคนแห่กักตุนสินค้าจนเกลี้ยงเชลฟ์ โดยของที่ขาดแคลนในเวลานี้คืออาหาร น้ำดื่ม ฟืน และของใช้จำเป็นต่างๆ
จะกลับมาเป็นปกติเมื่อไร?
สำนักอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ เตือนให้หลายรัฐรับมือกับพายุหิมะในวันพฤหัสบดี (18 กุมภาพันธ์) โดยมีแนวโน้มที่หลายพื้นที่ของรัฐเท็กซัสจะมีหิมะตก รวมถึงฝนด้วย ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดปัญหาไฟดับในหลายพื้นที่จึงยังมีสูง แต่ทางการคาดว่า โรงไฟฟ้าหลายแห่งจะกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติภายในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น
ภาพ: Joe Raedle / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: