วันนี้ (4 กุมพาพันธ์) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในงาน ‘พลิกสูตรวัคซีนสู้โควิด พลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทย’ ของมติชนว่า กรุณาอย่านำเรื่องวัคซีนมาปะปนกับการเมือง เพราะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องของการบริหาร แต่วัคซีนคือเรื่องของสุขภาพ คือเรื่องของชีวิตประชาชน ทั้งนี้ ทุกคนหวังว่าการได้วัคซีนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ไทยจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับบริการไปแล้ว แต่หน้ากากก็ยังต้องใส่ ต้องล้างมือ ต้องเว้นระยะห่าง เป็นวิธีป้องกันขั้นพื้นฐานซึ่งปฏิบัติได้ทันที
สถานการณ์ของไทยไม่ได้อยู่ในจุดที่เลวร้าย และเคยประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดรอบแรกมาแล้ว ส่วนสำคัญมาจากการร่วมแรงร่วมใจของประชาชน ขอให้ปฏิบัติต่อไป ปัญหาการระบาดรอบปัจจุบันมาจากการไม่บังคับใช้กฎหมาย ทำให้มีการนำเชื้อเข้ามาระบาดในประเทศ
“การระบาดรอบปัจจุบัน ประเทศไทยได้รับผลกระทบมาก เพราะประเทศไทยหวังพึ่งรายได้จากการท่องเที่ยว ขณะที่ทั่วโลกจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวด นี่คือช่วงเวลาที่ไทยต้องเตรียมพร้อมเพื่อรองรับในวันที่วัคซีนแสดงประสิทธิภาพเต็มที่ โดยระหว่างรอ ประเทศไทยต้องวางระบบสาธารณสุขให้เข้มแข็งที่สุด เมื่อถึงวันที่โลกปลอดภัย ไทยจะเป็นเป้าหมายในการท่องเที่ยวและลงทุน” อนุทินกล่าว
อนุทินยังกล่าวถึงประเด็นการจัดหาวัคซีนว่าประเทศไทยไม่ได้ดำเนินการล่าช้าอย่างที่หลายคนตั้งข้อสงสัย ขอให้ย้อนดูสถานการณ์ในประเทศไทยที่ไม่ได้แย่ถึงขั้นติดเชื้อกันเป็นแสนคน
ประเทศไทยมีเวลาในการเลือกวัคซีนที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ทั้งเรื่องความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ผลข้างเคียง และการเก็บรักษา ที่ผ่านมาประเทศไทยเตรียมการให้เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนในอาเซียน ซึ่งประสบความสำเร็จแล้วในฐานะฐานการผลิต วัคซีนป้องกันโควิด-19 อาจจะต้องฉีดกันทุกปี สร้างปัญหาให้กับนานาชาติในการจัดหา แต่จะไม่เป็นอุปสรรคกับไทยในฐานะประเทศที่เป็นฐานการผลิต ประเทศไทยจะจัดการเรื่องวัคซีนได้สะดวก ไม่ถูกตัดคิวการสั่งจอง นี่คือความมั่นคงด้านสุขภาพในระยะยั่งยืน
อนุทินกล่าวอีกว่า ส่วนที่หลายคนสงสัยเรื่องโรงงานรับผลิตนั้น ต้องอธิบายว่าเป็นเรื่องของผู้ผลิตว่าจะเลือกใคร และเมื่อเลือกโรงงานของไทยได้ผลิตก็นับเป็นสิ่งที่น่ายินดีมากที่ไทยจะเป็นซัพพลายเชน
ทั้งนี้ กว่าวัคซีนจะได้ปักบนแขนของคนไทย เราต้องมั่นใจแล้วว่าปลอดภัยแน่นอน ซึ่งหลังฉีดจะมีระบบติดตามอาการด้วย ขอให้มั่นใจว่าคนไทยทุกคนจะได้รับวัคซีนที่ปลอดภัยและฟรีอย่างแน่นอน เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
“วัคซีนที่ไทยจัดหามาจะเป็นวัคซีนที่ดีและเหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด มีความปลอดภัย ผ่านการคัดเลือกมาด้วยความรอบคอบ คนไทยจะไม่มีสภาพเป็นหนูทดลองแน่นอน” อนุทินกล่าว
อนุทินยังกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดที่จังหวัดสมุทรสาครว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่สิ้นหวัง แต่ต้องเข้าใจว่าการที่ตรวจแล้วพบผู้ติดเชื้อเยอะนั้นเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข จังหวัดสมุทรสาครถือเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างเข้มข้นในกลุ่มแรงงานต่างด้าว
ทั้งนี้ จำเป็นต้องเข้าไปตรวจเพื่อแยกคนป่วยออกมาและทำการซีลพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วประเทศ แม้จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม แต่ก็รู้ที่มาที่ไป ยังอยู่ในจุดที่ควบคุมได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์