เกิดอะไรขึ้น:
บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2564 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยทั้งรายได้และกำไรจะเติบโตแบบ New High ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2563 ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ที่เติบโตมาจากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่องจาก Backlog ณ สิ้นปี 2563 มูลค่ารวม 3.76 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปี 2564 จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ในปี 2564 ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จจำนวน 3 โครงการ (ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร, ศุภาลัย ริวา แกรนด์ และ ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ) มูลค่าโครงการ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งมียอดขายเฉลี่ยแล้ว 90%
สำหรับยอดขาย (Presale) ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%YoY โดยสัดส่วนยอดขาย 37% จะมาจากต่างจังหวัด ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่ระดับ 34% นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิด 31 โครงการใหม่มูลค่ารวม 3.4 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 27 โครงการ และคอนโดฯ 4 โครงการ ซึ่งมูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้น 39%YoY
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น SPALI ปรับตัวลง 0.49%DoD สู่ระดับ 20.40 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 2.55%MoM สู่ระดับ 1,486.25 จุด (ข้อมูล ราคา ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564)
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไรสุทธิ 4Q63 ของ SPALI ที่ 1.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3%YoY และ 60.8%QoQ ซึ่งทำจุดสูงสุดของปี 2563 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง ถึงแม้โดยภาพรวมอาจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ SPALI สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และทำยอดขายโครงการแนวราบเพิ่มขึ้นได้จากการใช้ชีวิตแบบ New Normal และการเว้นระยะห่างทางสังคม
นอกจากนี้ SPALI มีแผนจัดตั้ง SPALIRT โดยคาดว่า ก.ล.ต. จะอนุมัติในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งหมายความว่าจะทำ IPO ในช่วงกลางไตรมาส 2/64
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่าแผนธุรกิจของ SPALI ปี 2564 มีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง โดยปัจจุบัน SPALI มี Backlog มูลค่า 3.61 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 41% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564, 35% ในปี 2565, 15% ในปี 2566 และ 9% ในปี 2567 นอกจากนี้ SCBS คาดว่าอัตรากำไรของ SPALI จะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งหลักๆ มาจากโครงการคอนโดฯ
โดยโครงการศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39 ที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ใน 4Q63 มีอัตรากำไรขั้นต้น 46-48% และ 3 โครงการที่โอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ (ศุภาลัย พรีเมียร์ เจริญนคร, ศุภาลัย ริวา แกรนด์ และ ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ) มีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 42-44%
นอกจากนี้ SPALI ยังได้อานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐในการลดค่าธรรมเนียมการโอนลงจาก 2% สู่ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองลงจาก 1% สู่ 0.01% สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจาก SPALI มีโครงการแนวราบที่กำลังดำเนินการในระดับราคาที่จับต้องได้ หรือต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และคอนโดฯ ในราคาที่จับต้องได้ และสร้างเสร็จแล้วมูลค่ารวม 5 พันล้านบาท โดยสินค้าคงคลังเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และช่วยสนับสนุนต่อผลการดำเนินงานในปี 2564 นี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์