ราคาบิตคอยน์ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง (พุธ-พฤหัสบดี) และฉุดให้มูลค่าของตลาดคริปโตเคอเรนซีลดลงมากกว่า 10% หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดที่สูญหายไป 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ราคาบิตคอยน์ช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมาร่วงลงกว่า 5,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการลดลงกว่า 13.3% จากระดับ 37,500 ลงมาสู่ระดับ 32,500 ในปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นการลดลงต่ำกว่าระดับ 33,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา และหากดูข้อมูลย้อนหลังจะพบว่า บิตคอยน์ผันผวนอย่างรุนแรงในช่วง 2-3 สัปดาห์ โดยปรับตัวขึ้นไปแตะที่ 41,940 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ เมื่อต้นเดือนนี้ และปรับตัวลงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ต่อมา
เช่นเดียวกันกับ Ethereum ซึ่งเป็นคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของตลาด ที่ราคาลดลงเกือบ 10% แม้ว่าเมื่อ 2 วันก่อนหน้า Ethereum เพิ่งทำสถิติราคาสูงสุดตลอดกาลที่ 1,439 ดอลลาร์ก็ตาม
โดยรวมแล้วมูลค่าตลาดรวมของสกุลเงินดิจิทัลลดลงมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลดลงจากประมาณ 1.06 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นเกือบ 9.49 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา BlackRock ซึ่งเป็นกองทุนผู้จัดการสินทรัพย์ ซึ่งมีสินทรัพย์อยู่ภายใต้การบริหาร 7.8 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ยื่นหนังสือชี้ชวนสองฉบับสำหรับสองกองทุนที่อาจลงทุนบิตคอยน์ในตลาดล่วงหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่สำคัญว่านักลงทุนสถาบันกำลังแห่กันไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล
นักลงทุนบิตคอยน์รายหนึ่งกล่าวว่า สาเหตุหลักที่ราคาบิตคอยน์ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คือนักลงทุนสถาบันเข้ามาสู่ตลาดนี้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Paul Tudor Jones และ Stanley Druckenmiller
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
